Jurassic World: Rebirth ความท้าทายครั้งใหญ่ ชุบชีวิตจักรวาลไดโนเสาร์
ในการกลับมาของแฟรนไชส์ไดโนเสาร์ครั้งนี้ Gareth Edwards ผู้กำกับ Godzilla (2014) พยายามค้นหาแนวทางการเล่าเรื่องใหม่ โดยนำเสนอโลกที่ไดโนเสาร์กลายเป็นเทรนด์ที่หมดยุค คนเลิกเห่อกับไดโนเสาร์ ซึ่งดูเหมือนจะสะท้อนถึงจุดอิ่มตัวของแฟรนไชส์นี้แบบตลกร้าย
แต่หนังเรื่องนี้ก็กลับมาสู่จุดแห่งความตื่นเต้นอีกครั้ง ด้วยพล็อตที่พากลุ่มตัวละครเดินทางสู่เกาะต้องห้ามที่เคยเป็นสถานทดลองลับ และปัจจุบันกลายเป็นที่หลบภัยของไดโนเสาร์กลายพันธุ์ที่มีลักษณะแตกต่างและอันตรายยิ่งกว่าเดิม
จุดแข็งของหนังเรื่องนี้คือพล็อตผจญภัยที่หวนให้นึกถึงกลิ่นอาย Jurassic Park แบบยุคแรกๆ นอกจากนี้ยังมีทิวทัศน์ที่งดงามจากการถ่ายทำในประเทศไทย รวมถึงเสียงดนตรีจากฝีมือการประพันธ์ของ John Williams ที่ยังคงทำให้ขนลุกทุกครั้งที่ได้ยิน ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ เมื่อได้ยินบทเพลงนี้ก็ยังรู้สึกเหมือนไดโนเสาร์กลับมามีชีวิตอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ยังมีหลายจุดที่ยังไม่ลงตัว เช่น ฉากแอ็คชั่นที่มากเกินไปจนหาจุดพีคของหนังไม่เจอ พล็อตการผจญภัยที่สามารถกระชับได้ แต่หากมองในฐานะหนังครอบครัวที่สามารถรับชมได้อย่างสนุกสนาน แม้จะมีฉากบางส่วนที่อาจไม่เหมาะสมกับเด็กๆ Jurassic World: Rebirth ก็ตอบโจทย์ได้อย่างดีเยี่ยม ถือเป็นความบันเทิงที่ดูได้ทุกคน