แปลเพลง : The Beatles - Let It Be บทเพลงปิดฉากสี่เต่าทอง
นอกจากจะเป็นชื่อเพลง "Let It Be" ยังเป็นชื่ออัลบั้มชุดสุดท้ายของ The Beatles เพลงนี้จึงเปรียบเป็นบทเพลงปิดฉากสี่เต่าทอง ซึ่งตรงกับสถานการณ์ที่สมาชิกทุกคนเลือกที่จะทิ้ง The Beatles ไว้เบื้องหลัง ก่อนจะเดินไปในเส้นทางของตัวเอง
การทำงานในอัลบั้มชุดนี้เป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจาก The Beatles ไม่มีความทะเยอทะยานในการทำเพลงร่วมกันเหมือนเมื่อก่อน พอล แม็คคาร์ตนีย์ และ จอห์น เลนนอน ผู้เป็นนักเขียนเพลงหลักของวงมีความขัดแย้งและต่อต้านกันทั้งเรื่องวิธีการทำงานและเรื่องส่วนตัว
โดยจอห์นมักพาแฟนสาวชาวญี่ปุ่น โยโกะ โอโนะ เข้ามาทำงานกับวง จนทำให้สมาชิกคนอื่นๆ รู้สึกอึดอัด ไม่มีความเป็นส่วนตัว ส่วนพอลก็มีปากเสียงกับ จอร์จ แฮรริสัน ซึ่งจอร์จก็ตอบโต้ด้วยการวอล์คเอาท์หายจากสตูดิโอไปหลายวัน ก่อนจะกลับมาทำงานอีกครั้ง
งานชุดนี้ The Beatles ต้องเผชิญปัญหาความไม่ต่อเนื่องในการทำงาน น้อยครั้งที่สมาชิกทั้งสี่จะปรากฏตัวพร้อมกันเพื่ออัดเพลงให้เสร็จสมบูรณ์ อย่างไรก็ตามต้องยกให้เครดิตให้กับ ฟิล สเปคเตอร์ โปรดิวเซอร์ชาวอเมริกันที่พยายามโปรดิวซ์ "Let It Be" ให้ออกมาให้สมบูรณ์แบบที่สุด ท่ามกลางวัตถุดิบเพลงที่มีจุดบกพร่องมากมาย
หลังจากอัลบั้มเสร็จสมบูรณ์ พอล แม็คคาร์ตนีย์ ออกตัวชัดเจนว่าไม่พอใจในฝีมือของฟิล สเปคเตอร์ ในขณะที่จอห์น เลนนอน ปกป้องฟิลโดยบอกว่า "พวกเราอัดเพลงได้ต่ำช้าไร้คุณภาพ แต่ฟิลโปรดิวซ์ออกมาได้น่าเหลือเชื่อ" คำพูดของทั้งคู่แสดงถึงจุดยืนที่อยู่คนละฝั่ง ซึ่งยิ่งสะท้อนในความไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของ The Beatles
เพลง "Let It Be" ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก พอล แม็คคาร์ตนีย์ ซึ่งตกอยู่ในภาวะความเครียดหลังเกิดความขัดแย้งภายในวง จนกระทั่งคืนหนึ่ง แม่ของพอลที่เสียชีวิตไปแล้วก็ได้เข้าฝันพอล และปลอบเขาด้วยคำพูด "It will be all right, just let it be" ซึ่งประโยคนั้นเองกลายเป็นจุดเริ่มต้นในการเขียนเพลง "Let It Be"
แต่อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด เมื่อทุกคนไม่สามารถฝืนให้ The Beatles เดินต่อไปได้ หลังจากแสดงสดร่วมกันครั้งสุดท้ายที่บนดาดฟ้าของตึกแอปเปิ้ล The Beatles ก็ตัดสินใจแยกวงอย่างเป็นทางการ
แปลเพลง : The Beatles - Let It Be
When I find myself in times of trouble
Mother Mary comes to me
Speaking words of wisdom
Let it beในยามที่อยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก
พระแม่มารีทรงปรากฏกายต่อหน้า
ตรัสถ้อยคำเปี่ยมปัญญา
“จงปล่อยให้มันเป็นไป”And in my hour of darkness
She is standing right in front of me
Speaking words of wisdom
Let it beและในช่วงเวลาแห่งความมืดมิด
พระองค์ทรงประทับตรงหน้า
ตรัสถ้อยคำเปี่ยมปัญญา
“จงปล่อยให้มันเป็นไป”Let it be, let it be, let it be, let it be
Whisper words of wisdom
Let it beจงปล่อยให้มันเป็นไป
จงปล่อยให้มันเป็นไป
จงปล่อยให้มันเป็นไป
จงปล่อยให้มันเป็นไป
ตรัสถ้อยคำเปี่ยมปัญญา
จงปล่อยให้มันเป็นไปAnd when the broken-hearted people
Living in the world agree
There will be an answer
Let it beในยามที่ผู้คนที่ดวงใจแหลกสลาย
ใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้เห็นพ้องต้องกัน
มันก็จะมีคำตอบเพียงหนึ่ง
เมื่อเราปล่อยให้มันเป็นไปFor though they may be parted there is
Still a chance that they will see
There will be an answer
Let it beเพราะแม้ว่าพวกเขาจะต้องแยกจากกัน
ก็ยังมีโอกาส
ที่พวกเขาจะกลับมาเจอกันอีกครั้งหนึ่ง
มันก็จะมีคำตอบเพียงหนึ่ง
เมื่อเราปล่อยให้มันเป็นไปLet it be, let it be, let it be, let it be
Yeah, there will be an answer
Let it beจงปล่อยให้มันเป็นไป
จงปล่อยให้มันเป็นไป
จงปล่อยให้มันเป็นไป
จงปล่อยให้มันเป็นไป
มันก็จะมีคำตอบเพียงหนึ่ง
เมื่อเราปล่อยให้มันเป็นไปLet it be, let it be, let it be, let it be
Whisper words of wisdom
Let it beจงปล่อยให้มันเป็นไป
จงปล่อยให้มันเป็นไป
จงปล่อยให้มันเป็นไป
จงปล่อยให้มันเป็นไป
ตรัสถ้อยคำเปี่ยมปัญญา
จงปล่อยให้มันเป็นไปAnd when the night is cloudy
There is still a light that shines on me
Shine until tomorrow
Let it beแม้มีเมฆหมอกปกคลุม
อย่างน้อยก็มีแสงสว่างส่องมาที่ฉัน
ส่องไปจนถึงวันพรุ่งนี้
จงปล่อยให้มันเป็นไปI wake up to the sound of music
Mother Mary comes to me
Speaking words of wisdom
Let it beบทเพลงปลุกฉันให้ตื่น
ตรัสถ้อยคำเปี่ยมปัญญา
“จงปล่อยให้มันเป็นไป”
Lyrics Translated by
แปลเพลงเล่นกลอน - Lyrics in Poem