Summer Will End โปรเจกต์ดนตรีของคนไทย ที่นำเสนอตัวเองผ่านคาแร็กเตอร์ AI
ปัจจุบันนี้นอกจากคุณภาพของผลงานเพลงแล้ว หากอยากให้คนจดจำ ศิลปินต้องรู้จักนำเสนอภาพลักษณ์ตัวเองให้น่าสนใจ เรามักเห็นศิลปินสากลเปลี่ยนคอสตูมเปลี่ยนไปตามคอนเซปต์อัลบั้ม หรือแม้แต่การพรีเซนต์ตัวเองผ่านคาแร็กเตอร์ที่สร้างขึ้นมาใหม่ ไม่ว่าจะเป็น Daft Punk, หรือ Cornelius ศิลปินญี่ปุ่นที่เคยออกผลงาน DVD Audio-visual คู่กันกับอัลบั้มเพลง ซึ่งเป็นการทำงานที่เขาหันมาโฟกัสกับงานภาพเท่าๆกับงานเสียง รวมถึงวงแอนิเมชันอย่าง Gorillaz ซึ่งการสร้างกิมมิกของศิลปินที่กล่าวมา ถือเป็นอีกจุดขายที่ทำให้พวกเขาได้รับการจดจำไปทั่วโลก
สำหรับวงการเพลงไทยก็มีเคสแบบนี้เช่นกัน วันนี้เราเลยอยากมาแนะนำ Summer Will End โปรเจ็กต์ของกลุ่มคนเบื้องหลังงานดนตรีสัญชาติไทยที่สร้างสรรค์งานป็อปและอิเล็กทรอนิกส์ พวกเขาเลือกที่จะนำเสนอตัวเองในแบบนิรนาม และเลือกนำคาแรกเตอร์ของ AI ที่มีรูปแบบเสมือนจริง ของสาวผมสีน้ำเงินหน้าตาน่ารักที่ถูกตั้งชื่อว่า Hannah มาเป็นตัวแทนของโปรเจ็กท์นี้
ซึ่งเธอก็จะไปอยู่ในทุกๆ ผลงานของ Summer Will End ด้วยคอนเซ็ปท์ที่อยากให้ทุกเพลงของพวกเขามีความน่ารักแต่ยังแทรกความน่าค้นหา รวมทั้งคนฟังจะได้โฟกัสกับงานเพลงอย่างเต็มที่อีกด้วย โดยมี โป๊ะ - ชลันทร์ ศุกระรุจิ co founder และยังรับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์ในทุกๆ เพลงของโปรเจ็กต์ Summer Will End
และอีกหนึ่งไฮไลท์ของ Summer Will End คือการทำเอาวิชวล ที่ผสมผสานงาน Choreography มาใช้ในมิวสิกวิดีโอ ซึ่งจะเป็นรูปแบบผลงานที่สามารถนำไปใช้ได้ในงานต่างๆ ที่ไม่จำกัดอยู่ในคอนเสิร์ต แต่ยังรวมถึงงาน commercial ที่ใช้เทคโนโลยีของโลกยุคใหม่ในการทำงานประเภทอื่นๆ ที่ต่อยอดไปได้อีก ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจแบรนด์แฟชั่น หรืองานอีเว้นท์ที่อาจจะต้องการสร้างความน่าสนใจให้กับตัวสินค้านั้นๆ ที่สามารถนำเสนอดนตรีและงานกราฟฟิกไปพร้อมๆ กัน
โดย Summer Will End ที่จะมีการร่วมงานกับศิลปินต่างๆ ในทุกแทร็ค อย่างเช่น "N’ I Love You" Feat. Jace Payackapan และ "Take It Slow" Feat. Chalun เมื่อทั้ง 2 เพลงนี้ปล่อยออกมาก็สามารถเข้าไปอยู่ใน Playlist หลักของ Apple อย่าง Future Hit และ Best New Song รวมถึง Hit&Viral ของ Spotify ซึ่งทั้งสองเพลงก็มีแฟนๆ จากทั้ง อเมริกา,จีน,อินโดนีเซีย,เกาหลีใต้,ฟิลิปปินส์
ล่าสุด Summer Will End ได้ปล่อยซิงเกิ้ลใหม่ “One More Time” งานนี้เป็นการกลับมาร่วมงานของสาวเสียงเพราะ Jace Payackapan โดยเพลงนี้เป็นงานอิเลกโทร-ป็อป ที่แอบแทรกกลิ่นอายดนตรีดิสโก้ไว้เล็กๆ ซึ่งเนื้อหาของเพลงพูดถึงการพบเจอใครซักคน และคนๆนั้นทำให้เรารู้สึกตกหลุมรักได้ตั้งแต่แรกเจอ ถึงแม้จะรู้ว่าจะเป็นการเจอกันเพียงไม่นาน และมันคงเป็นการเจอกันชั่วคราว แต่ก็อยากให้ช่วงเวลานั้นยาวนานกว่านี้อีกหน่อย
ต้องยอมรับว่าทั้งวงการเพลงไทยและสากล มีไอเดียใหม่ๆ สนุกๆ จากโปรเจกต์เกิดขึ้นมากมาย นั่นรวมถึงโปรเจกต์ของ Summer Will End ที่เราเพิ่งแนะนำกันไป ถ้าเราไม่รู้ที่มาความเป็นมาของวง ก็คงคิดว่านี่เป็นโปรเจกต์ของศิลปินต่างประเทศ เพราะดนตรีของพวกเขาทำได้ในระดับอินเตอร์ บวกกับการนำเสนอตัวเองผ่านคาแร็กเตอร์ AI ยิ่งทำให้เราอยากติดตาม Summer Will End ทั้งในแง่บทเพลงและกิมมิกที่มีลูกเล่นน่าค้นหา