Rich Brian แร็ปเปอร์หนุ่มแห่ง 88rising กับอัลบั้มใหม่ที่สะท้อนตัวตนความเป็นเอเชียผ่านดนตรี
หากพูดถึงแร็ปเปอร์รุ่นใหม่ที่น่าจับตามองอยู่ในขณะนี้ ต้องมีชื่อของ ‘ริช ไบรอัน’ (Rich Brian) แร็ปเปอร์หนุ่มสัญชาติอินโดนีเซีย วัย 20 ปี อยู่ในลิสต์อันดับต้นๆ ด้วยอย่างแน่นอน เขาไม่เพียงโด่งดังเฉพาะในเอเชียเท่านั้น แต่ยังได้รับการยอมรับในระดับสากล รวมทั้งเคยมีผลงานอัลบั้มที่ติดชาร์ต Billboard 200 ของฝั่งสหรัฐอเมริกา
ริช ไบรอัน แจ้งเกิดผ่านโซเชียลมีเดียอย่าง YouTube และ Vine ในฐานะแร็ปเปอร์ที่ทำเพลงฮิปฮอปแนวพาโรดี้ เขาเริ่มมีชื่อเสียงบนโลกออนไลน์ จนกระทั่งค่ายเพลง 88rising คว้าตัวมาเซ็นสัญญาเข้าสังกัด และมีอัลบั้มเดบิวต์ ‘Amen’ ในปี 2018
สำหรับปี 2019 ริช ไบรอัน ปล่อยผลงานอัลบั้มชุดที่สอง ‘The Sailor’ ที่สัมผัสได้ถึงพาร์ทดนตรีที่มีความจริงจังมากขึ้น อีกทั้งยังร่วมงานกับ ‘RZA’ แร็ปเปอร์แนวหน้าจากสหรัฐฯ ยกระดับความเป็นมืออาชีพของเขาไปอีกขั้น
เสพย์สากลได้มีโอกาสสัมภาษณ์ริช ไบรอัน ผ่านทางอีเมล์ โดยพูดคุยตั้งแต่คอนเซ็ปต์อัลบั้มชุดใหม่ ประสบการณ์การทำเพลงในฐานะศิลปิน รวมถึงมุมมองต่างๆ ที่เขามีต่อกระแสฮิปฮอปในปัจจุบัน
อัลบั้มชุดล่าสุด ‘The Sailor’ มีความแตกต่างจากอัลบั้ม ‘Amen’ อย่างไรบ้าง
ผมรู้สึกว่าตัวเองมีวุฒิภาวะและเติบโตขึ้นอย่างที่ควรจะเป็นระหว่างการทำอัลบั้มชุด 'The Sailor' ส่วนอัลบั้ม ‘Amen’ นั้น เป็นช่วงที่ผมกำลังทดลองและค้นหาเสียงที่ใช่สำหรับตัวเอง แต่สำหรับ ‘The Sailor’ ผมโฟกัสที่เอกลักษณ์ของตัวเองมากขึ้น และพยายามทำสิ่งที่คนฟังสามารถเชื่อมโยงถึงได้ โดยเฉพาะกระบวนการระหว่างโปรดักชั่น ผมได้ทำงานร่วมกับคนเก่งๆ หลายคน แทนที่จะทำทุกอย่างเองทั้งหมด ผมปล่อยให้มันเป็นไปอย่างที่ควรจะเป็นบ้าง แต่ก็ยังคงรักษาอิสระของความคิดสร้างสรรค์เอาไว้ครับ
เหตุผลที่ตั้งชื่ออัลบั้มชุดนี้ว่า ‘The Sailor’
มันเป็นตัวแทนของใครสักคนที่เป็นเหมือนกับ ‘นักสำรวจ’ ไม่หวาดกลัวที่จะสำรวจสิ่งที่ไม่รู้จักและไม่คุ้นเคย ซึ่งผมคิดว่าคนๆ นั้นก็คือตัวผมนี่แหละ นั่นคือสิ่งที่อยากจะให้คนอื่นๆ รู้สึกเช่นเดียวกันเมื่อได้ฟังเพลงในอัลบั้มชุดนี้
สำหรับซิงเกิลที่ชื่อว่า “Yellow” คุณต้องการสื่อความหมายถึงชาวเอเชียหรือเปล่า? อธิบายคอนเซ็ปต์ที่คุณต้องการสื่อสารออกมาให้ฟังหน่อย
ใช่ครับ ชื่อเพลงมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับการสื่อถึงเอกลักษณ์ของชาวเอเชียเลยล่ะ ครึ่งแรกของเพลง ผมพูดถึงความรู้สึกอัดอั้นที่ไม่สามารถแสดงออกทางความคิดหรือนำเสนอไอเดียต่างๆ ให้โลกได้รับรู้ได้ แต่ครึ่งหลังนั้น ผมพูดเกี่ยวกับตัวเองที่ทลายกำแพงของความรู้สึกนั้นได้ และสามารถที่จะแสดงความเป็นตัวตนออกมาได้อย่างเต็มที่ ทุกๆ สิ่งจะต้องดีขึ้นกว่าเดิม
คุณได้ร่วมงานกับกับ RZA ในเพลง “Rapapapa” ด้วย รู้สึกอย่างไรบ้างที่ได้ร่วมงานกับตำนานจาก ‘Wu-Tang Clan’
RZA สุดยอดไปเลย ผมคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ถูกที่ถูกทางมากๆ เพราะเขาก็ชื่นชอบวัฒนธรรมอาเซียน แถมยังเคยดูหนังเรื่อง ‘กังฟูแพนด้า’ กินอาหารจีน และในเพลงของเขาก็มีสิ่งที่สื่อถึงความเป็นเอเชีย ในอัลบั้มก็พูดถึงการเดินทางจากภูมิลำเนาเพื่อมาตามหาความฝัน ผมคิดว่ามันเป็นการร่วมงานกันที่สมบูรณ์แบบที่สุดสำหรับอัลบั้มชุดนี้
เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา คุณได้เข้าพบ ‘โจโก วิโดโด’ ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย รู้สึกอย่างไรบ้าง
ผมไม่โกหกเลยนะ…ผมโคตรกังวลเลยล่ะ ตอนที่ผมร้องเพลง “Kids” ผมเดาไม่ออกเลยว่าเขาชอบเพลงผมหรือเปล่า จนถึงวันนี้ก็ยังไม่รู้เลย แต่ก็ถือว่าเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้พบประธานาธิบดีและได้ร้องเพลงให้เขาฟังด้วย
ใครคือ 3 สุดยอดแร็ปเปอร์ที่คุณชื่นชอบที่สุดตลอดกาล
โห… คำถามนี้ตอบยากมาก! 3 อันดับเหรอ? อาจจะเป็น Kendrick, MF Doom และ Tyler The Creator
ฮิปฮอปกลายเป็นแนวดนตรีที่กำลังมาแรงมากๆ ในประเทศไทย มีแร็ปเปอร์หน้าใหม่แจ้งเกิดขึ้นมากมาย อยากให้คุณแนะนำอะไรถึงพวกเขาหน่อย
อาจจะฟังจำเจหน่อยนะครับ แต่คุณต้องซื่อสัตย์กับตัวเองและอย่าหยุดเดินหน้าเด็ดขาด ความสำเร็จไม่ได้เกิดขึ้นได้เพียงชั่วข้ามคืน คุณอาจต้องใช้เวลานานหลายปีเพื่อไปถึงจุดหมายที่ต้องการ แต่ถ้าคุณตกหลุมรักมันแล้ว จงเชื่อมั่นว่าสิ่งที่ดีจะต้องเกิดขึ้นแน่ๆ อีกข้อหนึ่งที่สำคัญคือ “อย่าพยายามลอกเลียนแบบสิ่งที่คนอื่นกำลังทำ” เป็นเรื่องที่ดีนะที่จะได้แรงบันดาลใจจากคนอื่น แต่ต้องมั่นใจว่าคุณจะแสดงด้านที่ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครรู้มาก่อนออกมาให้ได้ด้วย เพราะนั่นจะทำให้คุณแตกต่างจากศิลปินคนอื่นๆ คุณเพียงต้องรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ ‘ใช่’ ที่จะสื่อสารออกมา