พูดคุยกับ M2M วงดูโอป็อปขวัญใจคนยุค 2000s ก่อนมาแสดงคอนเสิร์ตครั้งแรกในไทย
สำหรับคนที่เติบโตในยุค 2000 หลายคนคงคุ้นเคยกับ M2M วงป็อปดูโอจากนอร์เวย์ที่ประกอบด้วย Marion Raven และ Marit Larsen ซึ่งครองใจแฟนเพลงด้วยเพลงป๊อปที่มีเมโลดี้ติดหู และเนื้อหาความรักแบบใสๆ ไม่ว่าคุณจะชื่นชอบดนตรีแนวไหน แต่เมื่อเพลงของ M2M ดังขึ้น เชื่อว่าหลายคนร้องตามได้อย่างไม่รู้ตัว
M2M ประสบความสำเร็จและแจ้งเกิดอย่างงดงามจากอัลบั้มชุดแรก Shades of Purple ที่มีเพลงฮิตติดหูอย่าง "Pretty Boy" และ "The Day You Went Away" ขณะที่เพลง "Don't Say You Love Me" ก็ได้รับเลือกให้เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์การ์ตูน Pokémon: The First Movie ยิ่งมีส่วนผลักดันให้ M2M กลายเป็นวงขวัญใจวัยรุ่นและเด็กๆ ในยุคนั้น
หลังจากประสบความสำเร็จจากอัลบั้มเดบิวต์ M2M ได้ปล่อยอัลบั้มที่สอง The Big Room ซึ่งมีการพัฒนาทั้งในด้านแนวดนตรีและเนื้อหาที่เติบโตขึ้น อย่างไรก็ตาม อัลบั้มชุดนี้ได้รับกระแสตอบรับที่ลดลงเมื่อเทียบกับอัลบั้มแรก ก่อนที่วงจะประกาศยุบวงช็อกแฟนเพลงทั่วโลกในปีถัดมา
ภายหลังการยุบวง Marion และ Marit ต่างแยกย้ายกันผันตัวเป็นศิลปินเดี่ยวและเดินตามเส้นทางดนตรีของตนเอง แม้กระแสตอบรับอาจไม่โด่งดังเทียบเท่ากับช่วง M2M แต่นั่นก็เป็นโอกาสที่ทั้งสองได้สร้างสรรค์ผลงานตามแนวทางที่ตัวเองต้องการ
แม้จะไม่มีความเคลื่อนไหวของ M2M มานานกว่า 20 ปี แต่ต้องยอมรับว่าเมื่อพูดถึงวงต่างประเทศที่เป็นตัวแทนของเพลงป๊อปในยุค 2000 ชื่อของ M2M มักจะถูกนึกถึงเป็นลำดับต้นๆ สำหรับแฟนเพลงชาวไทยเสมอ
และในปี 2024 แฟนเพลงก็ได้รับข่าวดีสุดเซอร์ไพรส์ เมื่อ M2M กลับมารวมตัวกันพร้อมประกาศทัวร์คอนเสิร์ต โดยหนึ่งในจุดหมายปลายทางคือประเทศไทย
น่าแปลกใจที่แม้ M2M จะมีกระแสความนิยมสูงในประเทศไทย แต่พวกเธอยังไม่เคยมีโอกาสแสดงคอนเสิร์ตในไทยเลยแม้แต่ครั้งเดียว ดังนั้น คอนเสิร์ตครั้งนี้จึงเป็นโอกาสสำคัญที่แฟนเพลงชาวไทยจะได้เป็นส่วนหนึ่งของการแสดงสดของดูโอที่เปรียบเสมือนเป็นซาวด์แทร็กประกอบชีวิตในยุค 2000s
ล่าสุดเสพย์สากลได้มีโอกาสในการสัมภาษณ์ M2M ก่อนที่พวกเธอจะเดินทางมาแสดงคอนเสิร์ตครั้งแรกในประเทศไทย เราได้สอบถามถึงจุดเริ่มต้นที่ทำให้ทั้งสองกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง อันเป็นที่มาของทัวร์คอนเสิร์ตครั้งสำคัญนี้
ย้อนกลับยุค 2000s เรารู้สึกประหลาดใจมากที่แม้ M2M จะได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในประเทศไทย แต่กลับยังไม่เคยมีโอกาสได้จัดคอนเสิร์ตที่นี่เลยแม้แต่ครั้งเดียว
Marit: จริงๆ แล้ว พวกเราเคยมาเล่นโชว์เคสเล็กๆ เพื่อโปรโมทอัลบั้มในเมืองไทย แต่ยังไม่เคยมีโอกาสจัดคอนเสิร์ตเดี่ยวเต็มรูปแบบที่นี่มาก่อน นั่นคือเหตุผลที่ทำให้เรารู้สึกตื่นเต้นกับทัวร์คอนเสิร์ตครั้งนี้มากๆ ค่ะ เป็นการรอคอยกว่า 25 ปีกว่าที่จะได้มาแสดงคอนเสิร์ตครั้งนี้
แต่ในช่วงที่หายหน้าหายตาไป พวกเรายังคงเล่นดนตรีต่อเนื่องในฐานะศิลปินเดี่ยว ก่อนจะกลับมาซ้อมร่วมกันอย่างจริงจัง ดังนั้นพวกเราพร้อมสำหรับคอนเสิร์ตแน่นอนค่ะ
ช่วยเล่าถึงโมเมนต์ที่ทำให้ทั้งคู่ตัดสินใจชุบชีวิต M2M กลับมาอีกครั้ง
Marion: เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้วค่ะ ตอนนั้นรถของฉันยางแบนในช่วงเช้ามืด ฉันเลยแวะเข้าร้านกาแฟใกล้ๆ ขณะที่ร้านยังแทบไม่มีลูกค้าเลย จู่ๆ Marit ก็เดินเข้ามาในร้านเดียวกัน มันเป็นความบังเอิญที่น่าอัศจรรย์มาก ราวกับเป็นพรหมลิขิตเลยค่ะ พวกเราไม่ได้เจอกันมานานกว่า 20 ปี เราสบตากันแล้วรู้ทันทีว่าถึงเวลาที่เราต้องพูดคุยกันแล้ว
พวกเรานั่งจิบกาแฟและคุยกันยาวนานถึง 4-5 ชั่วโมง ระหว่างนั้นเราลองเปิด Spotify ดู และพบว่ายังมีผู้คนฟังเพลงของเราอยู่กว่าพันล้านครั้งต่อเดือน ในวินาทีนั้นเอง พวกเราต่างมองหน้ากันและรู้สึกตรงกันว่า 'ถึงเวลาแล้วที่เราควรกลับมา
อัลบั้ม Shades of Purple ถือเป็นผลงานที่ทำให้ทั่วโลกรู้จักพวกคุณจากเพลงฮิตอย่าง "Pretty Boy" และ "The Day You Went Away" อัลบั้มนี้มีความสำคัญต่อพวกคุณอย่างไรบ้าง
Marit: อัลบั้มนี้มีความหมายต่อพวกเรามากๆค่ะ เพราะเป็นจุดเริ่มต้นของทุกสิ่งในเส้นทางดนตรีของเรา แม้ในตอนนั้นเราจะเป็นนักแต่งเพลงที่อายุน้อยมาก แต่พวกเราทุ่มเทและทำงานอย่างหนักจริงๆ การทำอัลบั้มนี้เหมือนเป็นช่วงเวลาแห่งเวทมนตร์ เพราะมันเต็มไปด้วยประสบการณ์ครั้งแรกในหลายๆ เรื่อง ทั้งการตกหลุมรักครั้งแรก การอกหักครั้งแรก ดังนั้นบทเพลงที่เราเขียนจึงถ่ายทอดมาจากแก่นแท้ของความรู้สึกที่เรามีในขณะนั้น
ทุกครั้งที่ฉันได้ฟังอัลบั้มนี้ มันจะพาฉันย้อนกลับไปสู่ความทรงจำในช่วงเวลานั้นเสมอ เช่นเดียวกับที่แฟนๆ หลายคนบอกว่า เมื่อได้ยินเพลงในอัลบั้มนี้ พวกเขาสามารถจำได้ว่าตอนนั้นกำลังทำอะไรอยู่ อยู่ที่ไหน หรือกำลังชื่นชอบใครอยู่ อัลบั้มชุดนี้จึงครองพื้นที่พิเศษในหัวใจของฉันเสมอค่ะ
หลังจากที่ M2M ได้ประกาศทัวร์คอนเสิร์ต มีผู้คนมากมายในโลกออนไลน์พูดถึงพวกคุณในทำนองว่า 'M2M คือซาวด์แทร็กประกอบชีวิตของฉัน' คุณรู้สึกอย่างไรกับเสียงตอบรับเช่นนี้
Marion: คุณรู้มั้ยว่าฉันรู้สึกขนลุกเลยตอนที่คุณถามคำถามนี้ ฉันอยากขอบคุณแฟนเพลงทุกคนที่ไม่เคยลืมพวกเรา กำลังใจและความรักที่ส่งมาให้เหล่านี้ ฉันรู้สึกปลาบปลื้มจริงๆ ค่ะ
เด็กไทยยุคมิลลิเนียมหลายคนมักเลือกเพลง M2M เป็นเพลงสอบร้องเพลงในวิชาภาษาอังกฤษ แล้วตอนเด็กๆ ของพวกคุณมีเพลงไหนที่พวกคุณชอบร้องบ้าง
Marit: ตอนเด็กเด็กพวกเราเป็นเด็กสายดนตรีค่ะ พวกเราต้องไปออดิชั่นในงานประกวดต่างๆ และต้องเลือกเพลงอังกฤษเพื่อนำไปร้อง เพราะตอนนั้นเรายังไม่มีเพลงของตัวเองค่ะ ฉันชอบร้องเพลงจากหนัง The Sound Of Music , Wizzard of Oz แล้วเพลง “Tomorrow” จากภาพยนตร์เรื่อง Annie ที่เอามาดัดแปลงเป็นเวอร์ชันของฉันเอง
Marion: สมัยเด็กฉันชอบ Céline Dion ฉันชอบร้องเพลงของเธอในห้องนอน แต่ก็ไม่ได้ร้องถูกหลักตามภาษาอังกฤษนัก เพราะตอนนั้นฉันยังเด็ก
Marit: ฉันก็ไม่รู้ว่าความหมายหรือการออกเสียงที่ถูกต้อง แต่ฉันร้องเพลงตามที่ได้ยิน ฉันมองว่าการฟังเพลง เราไม่จำเป็นต้องรู้ความหมายก็ได้ มันไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัวในการฟังเพลง และเวลาเด็กๆ ร้องเพลงมันจะดูมีเสน่ห์มากเพราะเด็กๆ ต่างตีความในแบบที่พวกเขาเข้าใจ
แล้วมีศิลปินหญิงในวงการเพลงป็อปยุคปัจจุบันที่พวกคุณชื่นชอบเป็นการส่วนตัวบ้างไหม
Marion: Chappell Roan ค่ะ
Marit: ฉันชอบเธอเหมือนกันค่ะ แล้วก็ Taylor Swift, boygenius
Marion: Sabrina Carpenter
Marit: ฉันรู้สึกดีใจมากๆ ที่ได้เห็นศิลปินหญิงที่โดดเด่นมากมายในยุคปัจจุบันนี้ค่ะ
รู้สึกตื่นเต้นไหมที่จะได้มาแสดงคอนเสิร์ตครั้งแรกที่ไทย
Marion: พวกเรารู้สึกตื่นเต้นมากๆ ค่ะ ได้ยินมาว่า เหลือบัตรอีกเพียงไม่กี่ร้อยใบเท่านั้น พวกเรารอคอยที่จะได้ร่วมร้องเพลงไปพร้อมกับแฟนเพลงชาวไทยทุกคน
Marit: คอนเสิร์ตครั้งนี้เปรียบเสมือนการเฉลิมฉลองครั้งยิ่งใหญ่สำหรับพวกเราค่ะ
ฝากถึงแฟนเพลงที่รอคอยพวกคุณ
Marion: ขอบคุณทุกคนที่ยังคงรอคอยพวกเรา แม้จะผ่านเวลาอันยาวนาน ขอบคุณที่ยังคงฟังเพลงของพวกเรามาตลอด และมอบที่พิเศษในหัวใจของพวกคุณให้กับเราเสมอมาค่ะ
Marit: ขอบคุณทุกคนที่ช่วยให้เพลงของเรายังคงมีชีวิต พวกเรายังไม่ทราบว่าจะมีโอกาสกลับมาจัดคอนเสิร์ตอีกเมื่อไหร่ โชว์ครั้งนี้อาจเป็นโอกาสเดียวก็ได้ อย่างที่บอกไปแล้วนะคะ ตอนนี้เหลือบัตรอีกไม่มากแล้ว อยากชวนทุกคนมาคอนเสิร์ตครั้งนี้กันเยอะๆ นะคะ
M2M จะมาแสดงคอนเสิร์ตที่ไทยในวันที่ 9 พฤษภาคม 2025 ณ ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี บัตรจำหน่ายแล้วทาง www.ticketmelon.com ติดตามรายละเอียดทาง Be Hear Now และติดตามฟังผลงานของ M2M ได้ที่นี่
