KPOPPED โชว์แบทเทิลเคป็อปและตะวันตก ความทะเยอทะยานผ่านมุมมองผู้อำนวยการสร้างของรายการ
เคป็อปได้กลายเป็นกระแสที่ปฏิวัติวงการเพลงสากล จากการขึ้นชาร์ตเมนสตรีมอย่าง Billboard ไปจนถึงการคอลแลบอเรชันกับสิลปินตะวันตกที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
KPOPPED รายการใหม่จาก Apple TV+ ได้ยกระดับการคอลแลบอเรชันข้ามวัฒนธรรมสู่มิติใหม่ เมื่อศิลปินเคป็อปและศิลปินตะวันตกต้องมาจับมือร่วมงานกัน สร้างโชว์สุดอลังการเพื่อชนะใจแฟนๆ
ด้วยเวลาเตรียมตัวเพียงไม่กี่วัน แต่ละทีมต้องแข่งกับเวลาเพื่อสร้างเพอร์ฟอร์แมนซ์สุดพิเศษ ก่อนขึ้นแสดงให้ผู้ชมกรุงโซล, ประเทศเกาหลีเป็นผู้ตัดสินโชว์ที่โดดเด่นที่สุดของค่ำคืนนั้น
รายการนี้ยังเป็นการรวมตัวระดับซูเปอร์สตาร์ โดยศิลปินตะวันตกนำโดย Megan Thee Stallion, Patti LaBelle, สมาชิก Spice Girls (Mel B และ Emma Bunton), Vanilla Ice, Taylor Dayne, Kesha, Eve, J Balvin, Kylie Minogue, TLC, Boy George, Jess Glynne, Ava Max และ Boyz II Men ศิลปินเคป็อปนำโดย BILLIE, ITZY, KEP1ER, JO1, ATEEZ, STAYC, Kiss of Life และ BLACKSWAN
ไลน์อัพศิลปินทั้งฝั่งเคป็อปและตะวันตกล้วนเป็นระดับซูเปอร์สตาร์ทั้งนั้น แต่สิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือเบื้องหลังการผลิตรายการ ที่ต้องบริหารจัดการศิลปินระดับโลก พร้อมเผชิญความท้าทายในการผสมผสานสองวัฒนธรรมที่แตกต่าง
เสพย์สากลได้รับเลือกเป็นหนึ่งในสื่อของเอเชียที่ได้สัมภาษณ์ Moira Ross และ Jake Hong สอง Executive Producer ของ KPOPPED ซึ่งครอบคลุมไปถึงโชว์ที่ทั้งสองคนชอบที่สุด ความท้าทายในการทำรายการ รวมไปถึงศิลปินในฝันที่อยากเห็นในรายการ
เมื่อถามถึงโชว์ที่ประทับใจที่สุด ทั้งคู่ยอมรับว่าเป็นคำถามที่ตอบยาก Jake Hong เลือกการคอลแลบระหว่าง Vanilla Ice และ KEP1ER อย่างไรก็ตามเขาบอกว่าทุกโชว์อยู่ในระดับสุดยอดเหมือนกันหมด
ส่วน Moira Ross ชื่นชอบทั้งโชว์ของ Spice Girls กับ ITZY และการร่วมงานระหว่าง Megan Thee Stallion, Patti LaBelle และ BILLIE ซึ่งไม่เพียงเป็นการรวมตัวของศิลปินหญิง แต่ยังเป็นตัวอย่างที่น่าชื่นชมสำหรับการทำงานที่แตกต่างในแต่ละรุ่น
ในมุมมองของแฟนๆ ถือเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นที่ได้เห็นบรรดาศิลปินอยู่ในโชว์เดียวกัน แต่ในมุมมองโปรดิวเซอร์นั่นคือความท้าทายหลักของ KPOPPED ซึ่งคือการประสานตารางเวลาของศิลปินระดับโลกให้มาถ่ายทำในเกาหลีภายในเวลาที่จำกัด Jake Hong เปิดเผยว่าอุปสรรคด้านภาษาก็เป็นประเด็นสำคัญ แม้จะมีล่ามคอยช่วยตลอดเวลา แต่เมื่อถึงจุดที่เกี่ยวกับดนตรี ทุกคนกลับสื่อสารเข้าใจกันได้อย่างรวดเร็ว
ด้วยความหลากหลายของศิลปินเคป็อปและตะวันตก เราจึงอยากรู้ถึงเกณฑ์การจับคู่ของศิลปินในโชว์นี้ว่าทางโปรดิวเซอร์เขามีวิธีการเลือกกันอย่างไร Moira Ross อธิบายว่า "มีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณา บางครั้งศิลปินเองก็มีรีเควส เช่น ITZY ที่อยากร่วมงานกับ Spice Girls เพราะเป็นแฟนตัวยงของพวกเธอ หรือ ATEEZ ที่ชื่นชอบ J Balvin มาตั้งแต่เดิม การจับคู่แบบนี้ถือเป็นเคมีที่สมบูรณ์แบบ"
Jake Hong เสริมว่ายังมีการพิจารณาด้านเทคนิคอีกด้วย ทั้งเรื่องเสียงร้องและการเต้นที่ต้องเข้ากันได้ อย่างกรณี Vanilla Ice กับ KEP1ER ที่ถูกจับคู่เพื่อสร้างโชว์ที่น่าตื่นตา
และเนื่องจากเป็นรายการที่อัดล่วงหน้า การรักษาความลับจึงเป็นสิ่งสำคัญ สองโปรดิวเซอร์เปิดเผยว่านอกจากการห้ามนำโทรศัพท์เข้าพื้นที่ถ่ายทำแล้ว ทุกคนไม่ว่าจะเป็นศิลปิน ทีมงาน หรือแฟนคลับต่างก็มีความเป็นมืออาชีพและเข้าใจถึงความจำเป็นในการรักษาความลับ เพื่อให้แฟนๆ ทั่วโลกได้สัมผัสความตื่นเต้นพร้อมกันเมื่อรายการออนแอร์
เมื่อถามถึงโอกาสให้แฟนๆ ทั่วโลกโหวตแทนผู้ชมในสตูดิโอ Moira Ross ให้คำตอบว่า "เป็นสิ่งที่เราอยากทำให้สำเร็จ แม้จะเป็นเรื่องใหญ่ แต่การให้แฟนๆ ทั่วโลกมีส่วนร่วมจะทำให้โชว์นี้สมบูรณ์แบบขึ้น" ส่วน Jake Hong เห็นด้วยว่าเป็น "ประเด็นที่น่าพิจารณาสำหรับซีซันใหม่"
เมื่อถามถึงศิลปินในฝันที่อยากเชิญมาร่วมงาน ทั้งสองโปรดิวเซอร์ยอมรับว่าต้องฝันให้สูงก่อน Jake Hong เผยรายชื่อศิลปินเคป็อปที่อยากเห็นในรายการ ได้แก่ ZEROBASEONE, STAYC, 2PM และ g.o.d ขณะที่ Moira Ross ตั้งเป้าหมายกับซูเปอร์สตาร์ระดับโลกอย่าง Taylor Swift และ Oasis
รายการ KPOPPED มีทั้งหมด 8 ตอน นำโดยสองซุเปอร์สตาร์ PSY และ Megan Thee Stallion พร้อมทีมผู้อำนวยการสร้างระดับตำนาน Lionel Richie และ Miky Lee สำหรับ KPOPPED เปิดตัวให้ชมแล้วบน Apple TV+