เสพย์สากล
News Column Interview Review Songs

พูดคุยกับ Vincent May มือกลอง Kodaline ก่อนอัลบั้มล่าสุด One Day at a Time จะออกเดือนมิถุนายนนี้

22 พ.ค. 2020 (5 ปีที่แล้ว)

แชร์บทความนี้ให้เพื่อนของคุณ

ประโยคที่ว่า “บทเพลงสามารถช่วยให้ใครหลายคนลุกขึ้นยืนและเดินหน้าต่อไปได้” เป็นสิ่งที่นักฟังเพลงได้พิสูจน์มาแล้วทุกยุคทุกสมัย โดยเฉพาะแฟนๆ ของวงไอริช Kodaline ที่มักใช้บทเพลงต่างๆ เป็นกำลังใจในการก้าวผ่านช่วงอารมณ์ความรู้สึกต่างๆ ในชีวิต  

หลังจากโลดแล่นอยู่ในวงการเพลงระดับโลกมานานหลายปีกับผลงานเพลง 3 อัลบั้ม วง Kodaline เดินสายทัวร์คอนเสิร์ตในเอเชียและเคยแวะเวียนมาแสดงสดที่กรุงเทพฯ ถึง 2 ครั้งด้วยกัน โดยครั้งล่าสุดเล่นที่ MAYA Music Festival เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โชว์อัดแน่นด้วยบทเพลงฮิตที่ตอกย้ำถึงกระแสความนิยมในประเทศไทย

โดยในปีนี้พวกเขาได้ปล่อยซิงเกิ้ล “Wherever You Are” พร้อมกับข่าวคราวของอัลบั้มเต็มชุดใหม่ล่าสุด One Day at a Time ที่กำลังจะปล่อยอย่างเป็นทางการวันที่ 12 เดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งทางเสพย์สากลได้มีโอกาสสัมภาษณ์ Vincent May มือกลองของวง Kodaline ผ่านทางอีเมล์ เกี่ยวกับการทำงานเพลงในช่วง COVID-19 รวมถึงผลงานอัลบั้มชุดใหม่ที่แฟนๆ ชาวไทยจะได้ฟังกันในเร็วๆ นี้ 

​หลังจากทัวร์คอนเสิร์ตอัลบั้ม ‘The Politics of Living’ จบลงแล้ว พวกคุณทำอะไรกันต่อ 

ทัวร์จบลงในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว พวกเราก็ใช้เวลาหยุดพักผ่อนในช่วงคริสมาสต์ แต่ก็ตื่นเต้นกับการจะได้กลับเข้าสตูดิโอเพื่อที่ทำอัลบั้มชุดใหม่มาก จนกระทั่งเดือนมกราคมที่ผ่านมาเราก็ได้อัดเพลงสำหรับอัลบั้มใหม่เสร็จไปแล้ว 2 เพลง 

ซิงเกิ้ล “Sometimes” เขียนขึ้นมาจากความกังวลใจของ Steve แต่หลังจากที่ได้อ่านเนื้อเพลงแล้ว มีความเกี่ยวข้องกับปัญหาของวงใช่หรือเปล่า

สตีฟเขียนเพลง “Sometimes” ขึ้นในขณะที่พวกเรากำลังทัวร์เอเชีย เนื้อหามันเกี่ยวกับการที่ สตีฟต้องจัดการกับความวิตกกังวลและอาการซึมเศร้าของตัวเองในช่วงเวลาของการทัวร์ที่น่าตื่นเต้นมากกว่า พวกเราเล่นคอนเสิร์ตที่ใหญ่มาก และได้เดินทางไปยังสถานที่ใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา ผมคิดว่าเนื้อเพลงท่อน "band don't care" คงมาจากความรู้สึกที่ว่า เพื่อนในวงคงไม่มีใครเห็นว่า สตีฟกำลังเผชิญกับอะไรอยู่ แล้วต่างคนก็ต่างเดินหน้าต่อไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

รู้สึกอย่างไรกับการที่แฟนๆ ได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของมิวสิกวิดีโอเพลง “Saving Grace” 

ยอดเยี่ยมมากๆ พวกเราอยากจะทำลองทำอะไรใหม่ๆ เพราะชีวิตของหลายคนต้องเปลี่ยนไปภายในเวลาไม่กี่เดือนที่ผ่านมา พวกเราก็เลยอยากจะแสดงให้เห็นว่าทุกคนกำลังเผชิญสถานการณ์ในรูปแบบเดียวกัน และเราจะผ่านมันไปพร้อมๆ กัน 

สถานการณ์ระบาดของ COVID-19 ส่งผลกระทบต่อการทำอัลบั้มชุดใหม่มั้ย

ไม่เลย พวกเราโชคดีที่ทำอัลบั้มเสร็จตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ก่อนที่สถานการณ์ในยุโรปจะแย่ลง และอัลบั้มใหม่ก็พร้อมที่จะปล่อยออกมาในวันที่ 12 มิถุนายนนี้ 

คุณทำอะไรบ้างในระหว่างช่วงกักตัว 

ก็คงเหมือนกับทุกคน ผมพยายามทำตัวให้ไม่ว่าง ใช้เวลาไปกับการทำสวน ทำอาหาร และการอบขนมเยอะมาก ส่วนทั้งวงนั้นก็ยุ่งอยู่กับการโปรโมตซิงเกิ้ลใหม่และการปล่อยอัลบั้มใหม่อยู่ตลอดเวลา การถ่ายทอดสด Live Streams ต่างๆ ก็กินเวลาช่วงระหว่างสัปดาห์ไปบ้างเหมือนกัน เพราะพวกเราต้องเตรียมออก Live ทุกๆ วันศุกร์ แต่โดยรวมก็ถือว่าทุกอย่างยังราบรื่นดี 

ทำไมถึงตั้งชื่ออัลบั้มว่า ‘One Day at a Time’ 

ผมคิดว่าหลังจากที่ทุกคนได้ฟังทั้งอัลบั้มนี้แล้ว คงจะเข้าใจความหมายของชื่ออัลบั้มมากขึ้น สำหรับพวกเราแต่ละเพลงสื่อถึงความสัมพันธ์ อารมณ์ และความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไป ในวันที่คุณต้องเผชิญหน้ากับปัญหาหรือช่วงเวลาที่ลำบาก สิ่งเดียวที่จะทำให้คุณไม่กังวลกับอนาคตมากจนเกินไป คือการค่อยๆ คิดและค่อยๆ ทำแต่ละวันให้ดีที่สุด 

อัลบั้ม One Day at a Time ต่างจากอัลบั้มที่ผ่านมาอย่างไรบ้าง

การทำอัลบั้มชุดนี้ถือว่าสนุกมาก เพราะตลอดระยะเวลา 13 เดือนที่ผ่านมา มีแค่พวกเรา 4 คนทำงานด้วยกันในสตูดิโอที่ดับลิน เรามีอิสระในการทำอัลบั้มในแบบที่เราต้องการ โดยที่ไม่มีใครมาบังคับทิศทางของอัลบั้มเลย มันเหมือนกับการที่พวกเราได้กลับไปนั่งเขียนเพลงในห้องนอนอีกครั้งก่อนที่ Kodaline จะมีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมา 

เพลงไหนในอัลบั้ม One Day at a Time ที่พวกคุณแต่งได้เร็วและช้าที่สุด 

ถือว่าเป็นคำถามที่ยากมากจริงๆ เพราะผมจำไม่ค่อยได้ แต่ผมคิดว่าน่าจะเป็นเพลง “Wherever You Are” ที่แต่งเร็วที่สุด ส่วนเพลง “Saving Grace” เป็นเพลงที่แต่งช้าที่สุด เพราะพวกเราตั้งใจอยากจะทำให้มันออกมาดีที่สุด 

ุที่ผ่านมาวงได้ปล่อยวีดีโอแสดงสดผ่าน YouTube จากหลายๆ สถานที่ ไม่ว่าจะเป็นปารีส จาการ์ตา หรือวอร์ซอ มีที่ไหนที่คุณอยากจะไปแสดงอีกบ้าง

พวกเราไม่เคยแสดงที่ทวีปอเมริกาใต้หรือทวีปแอฟริกามาก่อน เพราะฉะนั้นเราหวังว่าจะได้ไปแสดงหรืออัดวิดีโอที่นั่นสักวัน 

รู้สึกอย่างไรเวลาที่แฟนเพลงเข้ามาบอกว่าเพลงของคุณช่วยชีวิตเขาไว้ และคุณมีเพลงไหนที่ช่วยชีวิตคุณไว้หรือเปล่า 

เป็นความรู้สึกที่เหนือความคาดหมายมากๆ ที่ได้ยินแฟนๆ พูดแบบนั้น การที่ได้ยินว่าเพลงของ Kodaline ช่วยให้เขาผ่านช่วงเวลาต่างๆ ไปได้ ไม่ว่าจะในยามทุกข์หรือยามสุขอย่างในงานแต่งงาน เป็นความรู้สึกที่เหลือเชื่อมาก พวกเรารู้สึกปลาบปลื้มใจอยู่ตลอดเวลาที่ได้ยินเรื่องราวต่างๆ จากแฟนเพลง เรามีความสุขที่เพลงนั้นมีความหมายกับคนฟังและได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในช่วงเวลาชีวิตของพวกเขา 

เมื่อต้นปีพวกคุณมาแสดงที่ไทยในงาน MAYA MUSIC FESTIVAL รู้สึกอย่างไรบ้าง

ยอดเยี่ยมไปเลยครับ เรามีความทรงจำดีๆ มากมายเกี่ยวกับประเทศไทย และหวังว่าจะได้มีอีก แฟนเพลงในไทยน่ารักมากๆ ไม่ต่างจากที่ไอร์แลนด์เลยครับ ทุกคนร้องเพลงกันเสียงดัง เต้นรำกัน มันเป็นค่ำคืนที่ดีมากๆ เลย

ฝากถึงแฟนเพลงชาวไทย

ผมอยากขอบคุณทุกคนที่สนับสนุนเรา รักเพลงของพวกเรา มันมีความหมายมากจริงๆ ดูแลตัวเองกันดีๆ นะครับ เราจะกลับไปเยือนที่ไทยอีกครั้ง หลังจากสถานการณ์ทุกอย่างดีขึ้น

#KODALINE #INTERVIEW

แชร์บทความนี้ให้เพื่อนของคุณ

Recommended

BABYMETAL ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จำไว้ในใจว่า “STAY METAL” aespa ปล่อยมินิอัลบั้ม Rich Man เตรียมตัวมาไทย 15 พฤศจิกายนนี้ Tame Impala ประกาศอัลบั้มใหม่ Deadbeat เตรียมปล่อย 17 ตุลาคมนี้ Justin Bieber เซอร์ไพรส์ส่ง SWAG II อัลบั้มเต็มพร้อมเพลงใหม่อีก 23 เพลง แปลเพลง : Justin Bieber - SPEED DEMON ความเร็วของปีศาจ

Follow us on

  •  Facebook
  •  Twitter
  •  Instagram
  •  Youtube

ติดต่อเรา

  •  sepsakon@gmail.com

เสพย์สากล

Music in whatever