เสพย์สากล
News Column Interview Review Songs

สัมภาษณ์: keshi ผู้สร้างสรรค์บทเพลง lo-fi สู่ดนตรีกระแสหลัก

2 เม.ย. 2020 (5 ปีที่แล้ว)

แชร์บทความนี้ให้เพื่อนของคุณ

ต้องยอมรับว่านักฟังเพลงในปัจจุบันค่อนข้างเปิดใจยอมรับความแปลกใหม่ทางดนตรี สไตล์ดนตรีที่ได้รับนิยมจึงไม่ได้ถูกไม่จำกัดอยู่ในกรอบเดิมอีกต่อไป ทำให้ศิลปินมีโอกาสในการทดลองดนตรีแนวใหม่ๆ และสร้างสรรค์ผลงานเพลงที่ท้าทายเทรนด์อุตสาหกรรมดนตรีมากยิ่งขึ้น 

แนวดนตรีที่กำลังได้รับความนิยมในหมู่คนรุ่นใหม่ในขณะนี้คือ lo-fi ซึ่งเป็นวิธีการบันทึกเสียงแบบเก่าที่มีความถี่ต่ำ และคุณภาพไม่สมบูรณ์ (ตรงข้ามกับ hi-fi ที่ศิลปินชั้นนำนิยมใช้โปรดักชั่นเสียง) ทว่าความไม่เพอร์เฟกต์นี้กลับกลายเป็นเสน่ห์ที่ดึงดูดบรรดานักฟังเพลงจากทั่วโลก  

สำหรับศิลปินที่น่าจับตามองในเวลานี้คือ ‘keshi’ หรือ Casey Luong หนุ่มชาวอเมริกันเชื้อสายเวียดนาม วัย 25 ปี ที่สร้างสรรค์บทเพลงแนว lo-fi ขับเคลื่อนดนตรีป๊อปด้วยบีทฮิปฮอปฟังสบาย โดดเด่นด้วยเนื้อหาเพลงที่เต็มไปด้วยมวลบรรยากาศแห่งความเหงาและความโดดเดี่ยว โดยซิงเกิ้ลฮิตอย่าง “right here” และ “2 soon” ได้กลายเป็นเพลงโปรดประจำเพลย์ลิสต์ของใครหลายคนไปเรียบร้อยแล้วในขณะนี้

หลังจากอีพีอัลบั้มชุดใหม่ของเขาอย่าง ‘bandaids’ วางจำหน่ายไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เสพย์สากลได้มีโอกาสสัมภาษณ์ keshi ผ่านทางอีเมล พูดคุยถึงมุมมองการทำงานเพลงในฐานะศิลปิน รวมถึงเบื้องหลังแรงบันดาลใจของบทเพลงต่างๆ ที่เขาได้ถ่ายทอดออกมา 

คุณเติบโตขึ้นมากับการฟังเพลงแนวไหน และศิลปินที่มีอิทธิพลกับคุณคือใครบ้าง

ผมฟังเพลงหลากหลายแนวเลย ผมเคยฟังพังค์-อีโม อย่างวง All Time Low  และ Never Shout Never หลังจากนั้นค่อยๆ เปลี่ยนมาฟังเพลงอะคูสติกช้าๆ แบบที่เปิดในร้านกาแฟน่ะครับ เช่น Jason Mraz, Ed Sheeran และ John Mayer จนกระทั่งเข้ามหาวิทยาลัย ผมหันมาเริ่มฟังแนวฮิปฮอปและอาร์แอนด์บีมากขึ้น ศิลปินที่มีอิทธิพลในช่วงนั้นก็มี Drake, Bryson Tiller และ Post Malone ซึ่งมีส่วนสำคัญที่ทำให้ผมสนใจงานด้านการโปรดักชั่นเพลง 

อะไรคือสิ่งที่เป็นแรงบันดาลใจให้คุณอยากทำเพลงของตัวเอง

สมัยเรียนไฮสคูลผมได้ฟังเพลง “Stop The Train” ของ John Mayer ผมไม่เคยรู้สึกเข้าถึงอารมณ์เพลงไหนได้มากขนาดนี้มาก่อน และมันทำให้ผมอยากที่จะเริ่มเขียนเพลงของตัวเองบ้าง อยากจะขับเคลื่อนใครสักคนให้ได้อย่างที่เพลงๆ นั้นเคยขับเคลื่อนผม 

สัมผัสได้ว่าบทเพลงส่วนใหญ่ของคุณค่อนข้างมีกลิ่นอายของความเหงา มันมาจากประสบการณ์ส่วนตัวหรือเปล่า

ผมคิดว่าตัวเองรู้สึกโดดเดี่ยวกว่าที่เป็นนะ ผมอาจจะเป็นคนประเภทที่ชอบใคร่ครวญและหมกมุ่นอยู่กับความรู้สึกของตัวเองเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็นั่นแหละ บางทีผมก็มีหลายอย่างให้ทำเพื่อจัดการกับความเหงาที่คุณกำลังพูดถึง 

“right here” เป็นเพลงที่ได้รับความนิยมในหมู่แฟนๆ ชาวไทยอย่างมาก เล่าเบื้องหลังของเพลงนี้ให้ฟังหน่อย  

เพลงนี้เป็นเพลงที่สืบเนื่องมาจากเพลง “summer” ที่ผมได้เขียนขึ้น หลังความสัมพันธ์ระยะสั้น 3 เดือนจบลง ผมได้บอกกับอีกฝ่ายหนึ่งว่า “ผมรักคุณนะ แต่คุณไม่ได้รักผมในแบบที่ผมรัก หวังว่าเราจะสามารถเป็นเพื่อนกันได้ แต่ถ้าคุณต้องการผม ให้รู้ไว้ว่า…ผมอยู่ตรงนี้เสมอ” 

แล้วมิวสิกวิดีโอเพลง “blue” ที่เพิ่งปล่อยออกมา อะไรคือความหมายที่ซ่อนอยู่ในเพลงนี้  

“blue” เป็นเพลงที่เล่าถึงความคิดถึงเพื่อน ผมเคยมีช่วงเวลาที่ยากลำบากเพราะพวกเขาไม่ได้อยู่รอบตัวผมอีกต่อไปแล้ว พวกเราเพิ่งเรียนจบมหาวิทยาลัยและแยกย้ายไปตามเส้นทางชีวิตของแต่ละคน น่าเศร้าที่นับจากนี้เราคงได้เจอกันน้อยลง เพลงนี้เลยพูดถึงความโดดเดี่ยวและการใช้ชีวิตเดินต่อไปข้างหน้า เวลามันไม่เคยหยุดรอใครเลยจริงๆ นะครับ  

ความแตกต่างระหว่างอีพีอัลบั้ม ‘skeletons’ และอีพีล่าสุด ‘bandaids’ 

สิ่งที่แตกต่างมากที่สุดคือการโปรดักชั่นครับ ปีที่ผ่านมาผมได้เรียนรู้อะไรเยอะแยะเลย หลังจากได้ทำงานร่วมกับโปรดิวเซอร์เก่งๆ ผมได้เห็นพวกเขาทำงานและนำเทคนิคสมัยใหม่บางอย่างมาปรับใช้กับตัวเอง ทำให้ผมมีตัวเลือกมากขึ้นในการใส่ซาวนด์ที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนในงานเพลงของผม 

เล่าถึงคอนเซปต์อีพีอัลบั้ม ‘bandaids’ ให้ฟังหน่อย  

‘bandaids’ เล่าถึงช่วงเวลาในชีวิตที่ผมต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงมากมาย การเปลี่ยนผ่านมาสู่การเป็นนักดนตรีอาชีพ ขณะที่เพื่อนๆ ส่วนใหญ่ของผมก็กำลังเจอกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เช่นเดียวกัน เพลงในอีพีอัลบั้มชุดนี้ครอบคลุมหลายประเด็นเลยครับ แต่รวมๆ แล้วทั้งหมดคือเรื่องราวของความเปราะบาง และการก้าวเดินต่อไปข้างหน้าเพื่อเผชิญกับความเปลี่ยนแปลง 

ได้ยินมาว่า John Mayer คือแรงบันดาลใจสำคัญของคุณ ทำไมถึงชื่นชอบศิลปินคนนี้

ผมชอบเนื้อเพลงของเขา เรียบง่ายและธรรมดา แต่เขากลับเป็นนักแต่งเพลงที่สุดยอดมากๆ John Mayer คือศิลปินที่ผมฟังเพลงของเขาบ่อยที่สุดในช่วงปีที่เริ่มจริงจังกับการเล่นกีตาร์และการเป็นนักร้อง เอาเป็นว่าผมสามารถท่องโซโล่กีตาร์ทั้งหมดของเขาได้เลยล่ะครับ 

ศิลปินคนไหนที่คุณอยากร่วมงานด้วยในอนาคต

John Mayer สิครับ! ผมคิดว่าคุณคงรู้อยู่แล้วล่ะ 

คุณมีหนังเรื่องโปรดบ้างหรือเปล่า

ผมค่อนข้างชอบเรื่อง ‘Dunkirk’ นะ (ผลงานกำกับฯ ของคริสโตเฟอร์ โนแลน) แต่ผมก็ไม่แน่ใจว่าจะเรียกว่าหนังเรื่องโปรดได้หรือเปล่า ตัดสินใจยากแฮะ แต่ตอนนี้ขอตอบเรื่องนี้ก็แล้วกัน  

นอกจากอีพีอัลบั้มชุดล่าสุดแล้ว ยังมีโปรเจกต์อื่นที่น่าตื่นเต้นให้แฟนเพลงติดตามอีกมั้ย 

บอกได้แค่ว่า…ผลงานใหม่ทำมาถึงครึ่งทางแล้วครับ 

แฟนเพลงจะได้พบคุณที่ประเทศไทยในเร็วๆ นี้มั้ย อยากให้ฝากอะไรถึงพวกเขาหน่อย

ตอนนี้ยังไม่มีแผนที่จะเดินทางไปประเทศไทยเลยครับ แต่ผมอยากจะไปที่นั่นแน่นอน ส่วนสิ่งที่อยากบอกแฟนๆ ชาวไทยคือ ขอบคุณมากที่ฟังเพลงของผม ไม่น่าเชื่อว่าเพลงที่ทำในสตูดิโอที่บ้าน จะเดินทางไปไกลทั่วโลกได้ขนาดนี้ ขอบคุณมากๆ นะครับ 

ฟังเพลงของ keshi ได้ที่

Keshi EP bandaids – https://keshith.lnk.to/bandaidsFP 
less of you - https://keshith.lnk.to/lessofyouFP 
alright - https://keshith.lnk.to/alrightFP
blue - https://keshith.lnk.to/bdblueFP
right here - https://keshith.lnk.to/bdrighthereFP 
bandaids- https://keshith.lnk.to/bdsFP

#COLUMN #INTERVIEW #KESHI

แชร์บทความนี้ให้เพื่อนของคุณ

Recommended

แปลเพลง : ROSÉ - Messy มาเละเทะไปด้วยกัน แปลเพลง : d4vd - Is This Really Love? แบบนี้เรียกว่ารักเหรอ แปลเพลง : Ed Sheeran - Old Phone โทรศัพท์เครื่องเก่ากับความทรงจำของฉัน แปลเพลง : Ruth B. - Dandelions ดอกไม้แห่งความหวัง แปลเพลง : James Arthur - Car's Outside รถที่จอดรออยู่ข้างนอก

Follow us on

  •  Facebook
  •  Twitter
  •  Instagram
  •  Youtube

ติดต่อเรา

  •  sepsakon@gmail.com

เสพย์สากล

Music in whatever