Keshi ศิลปินผู้ผสมผสานดนตรี lo-fi เข้ากับมวลความเหงา
ปัจจุบันเทคโนโลยีการทำเพลงได้พัฒนาไปไกล เพลงของศิลปินชั้นนำล้วนอยู่ในระดับคุณภาพเสียงชัดเจน ซึ่งเรียกกันว่า hi-fi ในขณะที่ lo-fi คือการบันทึกเสียงแบบเก่า ความถี่ต่ำ คุณภาพไม่สมบูรณ์แบบ แต่ความไม่เพอเฟกต์แบบ lo-fi ก็เป็นเสน่ห์ที่ hi-fi ไม่สามารถทำได้
เดิมที lo-fi เป็นศัพท์ที่ถูกใช้ในวงการโปรดักชั่นเสียง แต่ต่อมา lo-fi ถูกนิยามกลายเป็นแนวเพลง แตกเป็นหลายแขนง โดยมีศิลปินยุคใหม่อย่าง Joji, Girl In Red, Clairo เป็นตัวแทนความนิยม แต่วันนี้เราจะมาพูดถึงศิลปินหน้าใหม่ที่ใช้ความไม่สมบูรณ์ของ lo-fi เป็นส่วนประกอบหลักของบทเพลง เขาคนนั้นคือ Keshi
ดนตรีของ Keshi มีกลิ่นอายความเป็น lo-fi ขับเคลื่อนด้วยบีทฮิพฮอพ ประกอบกับเสียงร้องชวนฝันสไตล์ป็อป เข้ากับเนื้อเพลงหวานขมชวนเหงา เห็นได้ชัดจากเพลง "Right Here" ที่กำลังได้รับความนิยมในเวลานี้
หลังจากเห็นชื่อของ Keshi ครั้งแรก หลายคนอาจนึกว่าเขาเป็นคนญี่ปุ่น แต่ไม่ใช่เลย หนุ่มคนนี้มีชื่อว่า Casey Luong เป็นศิลปินอเมริกันที่มีเชื้อสายเวียดนาม โดยชื่อ Keshi เป็นฉายาที่แฟนสาวเรียกเขามาตั้งแต่เด็ก เขาจึงนำ Keshi มาตั้งเป็นชื่อในวงการ
Keshi เป็นคนฟังเพลงเปิดกว้าง แต่ศิลปินที่มีอิทธิพลต่อชีวิตของ Keshi มากที่สุดคือ John Mayer เขาไม่ได้แค่ประทับใจในเนื้อเพลงและเมโลดี้ แต่จอห์นยังเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้ Keshi ลงมือทำเพลงเองโปรดิวซ์เอง ส่วนอีกคนที่มีอิทธิพลไม่แพ้กันคือ Ed Sheeran รวมถึงศิลปินยุคใหม่อย่าง Joji
จากแรงบันดาลใจเหล่านั้น Keshi จึงเริ่มลองทำเพลงตามทักษะที่มีอยู่ ก่อนจะเขาส่งให้ญาติพี่น้องและเพื่อนๆ ฟัง จนรู้สึกภูมิใจเล็กๆ หลังมียอดฟังเพลงบนอินเทอร์เน็ตหลักร้อย แต่คิดไปคิดมา Keshi ก็ไม่ได้รู้สึกถูกเติมเต็มแม้แต่น้อย เนื่องจากคนที่ฟังเพลงเขาล้วนเป็นคนรู้จักเขาทั้งสิ้น
"ผมอยากให้คนฟังของผมเป็นคนแปลกหน้า ถ้าพวกเขาชอบเพลงผม โดยที่ไม่รู้จักตัวตนผมแม้แต่น้อย ผมรู้สึกว่ามันเป็นการประสบความสำเร็จที่รู้สึกจริงใจมากๆ เลย"
Keshi ไม่ต้องการให้เพลงจมอยู่แค่กลุ่มคนรู้จัก เขาจึงขยันหมั่นทำเพลงจริงจัง ก่อนจะปล่อยเพลงอย่าง "2 soon","like i need you", "just friend" ที่ล้วนแล้วได้กระแสตอบรับล้นหลามบน Spotify ด้วยยอดเกินสิบล้านทั้งนั้น ซึ่งคนที่กดฟังล้วนแล้วเป็นแฟนเพลงที่ชื่นชอบในดนตรีของ Keshi จริงๆ ไม่ใช่แค่เป็นเพียงคนรู้จักหรือญาติครอบครัวอีกต่อไปแล้ว
และแล้วสัญญาณความดังของ Keshi ก็เริ่มดังขึ้น เมื่อเขาได้เซ็นสัญญากับค่ายใหญ่ Island Records ต้นสังกัดของวงอย่าง U2, Keane, Catfish and the Bottlemen, Shawn Mendes และวงอื่นๆ อีกมากมาย
หลายๆ เพลงของ Keshi จะสัมผัสได้ว่ามีมวลความเหงาแทรกอยู่ทั้งเนื้อเพลงและเมโลดี้ อย่างเพลง "2 soon" ที่พูดถึงการฟื้นฟูจิตใจหลังความสัมพันธ์ล้มเหลว หรือการพูดถึงความสัมพันธ์ friend with benefits ในเพลง "just friends" และ "right here" กับการรักษาความเป็นเพื่อนจากอดีตคนรัก
"ผมกลัวความโดดเดี่ยว ถ้าคุณอ่านเนื้อเพลงผม คุณจะสัมผัสความรู้สึกผมได้เลย ผมชอบคอนเซปต์การที่ถูกคนๆ นึงทำให้รู้สึกเปราะบาง และคนๆ นั้นก็สามารถทำร้ายคุณได้เจ็บที่สุดเช่นกัน ฟังดูหวานขมมากๆ เลย ผมชอบจดจำความรู้สึกเหล่านี้แล้วใส่ลงไปในดนตรีของผม"
ถึงแม้ชื่อเสียงของ Keshi อาจยังไม่ติดหูในวงกว้าง แต่ด้วยธีมเพลงของ Keshi ที่โดนใจคนยุคนี้ ไม่ว่าจะเรื่องความเปราะบาง สภาวะจิตใจที่ไม่มั่นคง รวมไปจนถึงความโดดเดี่ยว เชื่อว่าอีกไม่นานชื่อของ Keshi จะถูกพูดถึงมากขึ้นแน่นอน
Source
- Interview: keshi
- Music Producer, Singer, Songwriter Casey Luong aka Keshi