สัมภาษณ์ : d4vd จากนักสตรีมเกม สู่นักทำเพลงยอดฟังทะลุ 200 ล้านครั้ง
เสพย์สากลมีโอกาสสัมภาษณ์ David Anthony Burke หรือ d4vd (เดวิด) ศิลปินอเมริกันวัย 17 ปี ที่มีเรื่องราวความเป็นมาน่าสนใจ จากเด็กหนุ่มผู้ใฝ่ฝันอยากเป็นนักเล่นเกมมืออาชีพ แต่โชคชะตากลับเล่นตลก เปลี่ยนเขาเป็นนักทำเพลงอัจฉริยะที่มียอดฟังทะลุ 200 ล้านครั้ง
เดิมที d4vd ไม่ได้มีความฝันอยากเป็นนักดนตรีแม้แต่น้อย เขาอยากเป็นนักเล่นเกมมืออาชีพ เขามักสตรีมเกม Fortnite และชอบนำไฮไลท์เท่ๆ จากเกมมาตัดคลิปลง YouTube
มีอยู่วันหนึ่งคลิป Fortnite ถูก YouTube ดูดเสียง เนื่องจากไปเอาเพลงที่มีลิขสิทธิ์มาประกอบ d4vd เลยเริ่มต้นทำเพลงมาประกอบคลิปเอง เพื่อจะได้หลีกเลี่ยงปัญหาลิขสิทธิ์เพลง
d4vd ใช้วิธีอัดเพลงแบบ DIY โดยมีอุปกรณ์พื้นฐานเพียง iPhone หูฟัง apple เขาอัดเพลงในตู้เสื้อผ้าน้องสาว ใช้เสื้อผ้าและกระเป๋าเดินทางกันเสียงเข้า และนี่คือจุดเริ่มต้นเส้นทางดนตรีของ d4vd
ถึงแม้ประสบการณ์ดนตรีของ d4vd จะไม่ได้มีมากเหมือนนักดนตรีอาชีพ แต่เซนส์การทำเพลงของเขาโดนใจคนหมู่มาก โดยเฉพาะเพลง "Romantic Homicide" ที่มียอดฟังบน Spotify กว่า 285 ล้านครั้ง ขณะที่ซิงเกิ้ลล่าสุด "Here With Me" มียอดฟังทะลุ 100 ล้านครั้ง
ปัจจุบัน d4vd อยู่ค่าย Darkroom สังกัดเดียวกับ Billie Eilish และมีการคาดการณ์ว่า d4vd จะได้รับการผลักดันอย่างเต็มที่ในปีหน้า นั่นทำให้เขาเป็นหนึ่งในศิลปินที่มีโอกาสแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวในปี 2023
เหตุผลที่ตั้งชื่อตัวเองว่า d4vd
มันเป็นเพราะนิสัยเด็กๆ ของผมเลยครับ ผมแค่อยากตั้งชื่อม่เหมือนใคร แต่มันก็แสดงถึงตัวตนผมเหมือนกัน อยากได้ชื่อที่โยงเข้ากับชื่อจริงๆ ของผม (เดวิด) ผมเลยลองตัดตัว I ออก แล้วใช้ 4 แทนตัว A พอลองเสิร์ชดู ยังไม่มีใครใช้นี่หว่า งั้นเอาชื่อนี้เลยละกัน
ที่มาของเพลง "Romantic Homicide"
น่าประหลาดมากนะ เพลงที่เปรี้ยงๆ ของผมถูกเขียนขึ้นวันอังคารหมดเลย เพลงนี้ก็เขียนขึ้นวันอังคารเช่นกัน ก่อนหน้านั้นเพลงนี้มี 2 เวอร์ชัน แต่มันมีบางส่วนที่ยังไม่โดนใจผม ปกติถ้าผมยังไม่พอใจ ผมจะไปทำเพลงอื่นแทน แต่สำหรับ "Romantic Homicide" ผมรู้อยู่แก่ใจว่าต้องทำเพลงนี้ให้สมบูรณ์ เพราะเพลงนี้มีข้อความที่ผมอยากจะสื่อ มันคือเพลงอกหักแหละ มันคือการที่ต้องเผชิญหน้ากับความเจ็บปวด แบบพอกันทีกับการร้องไห้ฟูมฟาย และนี่ก็เป็นอีกเพลงที่ผมทำในตู้เสื้อผ้าของพี่สาว ด้วยไอโฟน ผมแค่เข้าไปในตู้ และก็ระบายความในใจออกมาให้หมด
หลังจากเพลง "Romantic Homicide" ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้น คุณรู้สึกกดดันไหม
โคตรกดดันเลยครับ ตอนที่ผมเห็นยอดบน TikTok ถึงกับตกใจ "อะไรวะเนี่ย" แต่มันคือความกดดันในแง่บวกนะครับ เพราะผมต้องพัฒนาตัวเองในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเรื่องการเขียนเพลง โปรดักชัน เรียนรู้เกี่ยวกับดนตรีมากขึ้น พยายามเค้นศักยภาพตัวเองออกมาให้มากที่สุด มันไม่ใช่ว่าผมต้องหาเพลงที่มาเอาชนะ "Romantic Homicide" ผมแค่ต้องผลักดันตัวเองต่อไปเท่านั้นเอง
การมีเพลงฮิตบน TikTok คุณคิดว่าเป็นข้อดีหรือไม่
ข้อดีหลักๆ คือ เพลงสามารถกระจายไปถึงคนที่ไม่รู้จักเรา แต่เพลงที่ดังบนโลกออนไลน์ มันก็ยากที่จะอยู่ในใจคนไปตลอด มีหลายคนที่พอเพลงดังแล้ว ก็ทำคอนเทนท์โปรโมทออกมารัวๆ ซึ่งเพลงมันอาจช้ำได้ครับ คุณต้องหาจุดสมดุลให้เจอ และดูเรื่องกลยุทธ์กาลตลาดดีๆ การมีเพลงไวรัล หรือถูกผลักดันเพราะอัลกอริทึม มันอาจทำให้คุณหลงทางได้เลย
เล่าถึงที่มาของซิงเกิ้ลล่าสุด "Here With Me"
เพลงนี้มีความหมายตรงข้ามกับ "Romantic Homicide" แบบคนละขั้ว จากเพลงอกหัก กลายเป็นเพลงรักเฉย (หัวเราะ) มันเกี่ยวกับการจดจำช่วงเวลาของคนที่คุณรัก คนที่คุณสามารถตายไปด้วยกันได้ ผ่านช่วงดีช่วงร้าย เพลงนี้ยังได้รับแรงบันดาลใจมาจากการ์ตูนดิสนีย์เรื่อง Up ด้วยครับ คอนเซปต์คือการเติบโตไปพร้อมกับคนที่คุณรัก สำหรับผมเนี่ยแหละคือความรักที่แท้จริง
คุณชอบทำเพลงที่ห้องตัวเองหรือทำที่สตูดิโอ
ผมชอบทำด้วยตัวเองมากกว่านะ แค่มีไอโฟนกับตู้เสื้อผ้าก็พอ ผมเคยลองไปสตูดิโอหลายครั้ง แต่สุดท้ายผมก็ใช้ไอโฟนทำเพลงอยู่ดี อาจเป็นเพราะว่าผมสบายใจที่ตัวเองเป็นคนควบคุม มากกว่ามีคนมาสั่งแบบ ทำแบบนั้นสิ! ใส่เสียงประสานเข้าไปสิ! การทำเพลงด้วยตัวเองมันเข้ามือผมมากกว่า
ความฝันในฐานะศิลปิน
เอ่อ...ตอนนี้ยังไม่มีเลยครับ ผมไม่มีเป้าหมายจริงจังเลย ผมแค่อยากทำเพลงให้ออกมาดีที่สุดเท่าที่จะทำได้