พูดคุยกับ Jeremy Zucker เจ้าของเพลงดัง "comethru" ก่อนขึ้นแสดงคอนเสิร์ตครั้งแรกในกรุงเทพ 10 ก.ย.นี้

Jeremy Zucker คือศิลปินอเมริกันวัย 22 ปี ที่คอเพลงทั้งในและนอกกระแสกต่างพูดถึงเขามากขึ้นเรื่อยๆ จากความโด่งดังของเพลง "comethru" และล่าสุดเขาได้ปล่อยซิงเกิ้ลใหม่ "oh, mexico" ที่มีซาวด์แตกต่างจากซิงเกิ้ลฮิตของเขาอย่างชัดเจน

จากการมีโอกาสได้ฟังเพลงของ Jeremy Zucker นับตั้งแต่ออกอัลบั้มอีพี ต่อด้วยเพลง "comethru" มาจนถึงซิงเกิ้ล "oh, mexico" ก็สามารถบอกได้ว่าศิลปินคนนี้มีวิวัฒนาการทางดนตรีที่น่าสนใจ และมีแววที่จะดังขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต

และก่อนที่ Jeremy Zucker จะขึ้นแสดงคอนเสิร์ตครั้งแรกที่กรุงเทพ ณ Nakarin Space วันที่ 10 กันยายนนี้ เราได้มีโอกาสพูดคุยกับเขาตั้งแต่เรื่องศิลปินที่มีอิทธิพลต่อชีวิตเขา ไปจนถึงผลงานเพลงของเขาอย่าง "comethru" และ "oh, mexico"   

blink-182 คือวงที่มีอิทธิพลที่ทำให้คุณเริ่มต้นอยากเขียนเพลงใช่มั้ย  

"ใช่เลยล่ะ เพลงพวกเขาไม่ซับซ้อน คือไม่ได้เขียนง่ายนะครับ แต่รูปแบบเพลงป็อปพังก์จะวนคอรัส, เนื้อเพลง, คอรัส, เนื้อเพลง ซึ่งง่ายต่อการเรียนรู้ ต่อมาผมก็ลองทำเพลงตัวเอง เพื่อมาแจมกับเพื่อนๆ ซึ่งการเรียนรู้เพลงของพวกเขาก็ช่วยต่อยอดให้ผมทำเพลงเอง โปรดิวซ์เพลงเองบนคอมพิวเตอร์ และบนโปรแกรม Garageband โปรแกรมนี้แหละที่ช่วยผมพัฒนาผมในฐานะนักดนตรีสมัครเล่นสู่ศิลปินมืออาชีพ"     

คุณได้ฟังเพลง blink-182 ยุคใหม่บ้างมั้ย

"ส่วนตัวผมชอบมาร์ก (Mark Hoppus) กับ ทราวิส (Travis Barker) แต่เสียงร้องของทอม (Tom Delonge) คือกระบอกเสียงของ blink-182 ผมรู้สึกแปลกๆ น่ะ เวลาวงขาดทอมไป ผมยังไม่มีโอกาสฟังเพลงใหม่ของพวกเขาเลย หวังว่าจะได้มีโอกาสฟัง แต่ตอนนี้ผมไม่ได้ฟังเพลงของพวกเขาเลย แม้แต่เพลงเก่าๆ ก็ตาม ผมลืมเซฟไว้ในมือถือ แต่ทุกครั้งที่ฟังเพลง blink-182 มันทำให้ผมนึกถึงภาพตอนสมัยเรียนไฮสคูล"    

แล้วตอนนี้คุณฟังเพลงอะไรบ้างล่ะ

"ผมไม่มีศิลปินคนโปรดนะ ฟังไปเรื่อยๆ แต่ตอนนี้ผมชอบฟังเพลงของ The 1975 ได้ยินมาว่าพวกเขาจะมาแสดงคอนเสิร์ตที่กรุงเทพด้วย LANY ก็ชอบเช่นกัน และก็ Bon Iver คนนี้ก็เจ๋งสุดๆ ไปเลย"   

พูดถึงเรื่องราวของซิงเกิ้ล "oh, mexico"

"เรื่องตลกคือเพลง "oh, mexico" มีท่อน "Anywhere Could Feel Like Home" หลายคนเข้าใจผิดว่าท่อนนี้คือชื่ออัลบั้มใหม่ของผม แต่ไม่ใช่นะครับ ส่วนเนื้อหาของ "oh, mexico" พูดถึงการจินตนาการว่าสถานที่อื่นมักจะดีกว่าที่ๆ ตัวเองอยู่ เหมือนกับสำนวน "หญ้าข้างบ้านมักสวยกว่าเสมอ" มันคือการฝันว่าถ้าอยู่ที่อื่น คุณสามารถทำแบบนี้ ทำแบบนั้นได้ ส่วนเม็กซิโกก็เป็นตัวแทนของสถานที่ในจินตนาการนั้น กลับมาที่ประโยค "Anywhere Could Feel Like Home" ก็ย้ำเตือนว่าไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน ทุกที่ก็สามารถเป็นที่พักใจคุณได้"

ในมิวสิกวีดีโอ "oh, mexico" คุณโกนหัวตัวเองด้วยแบตตาเลี่ยน ตรงนี้มีนัยยะหรือข้อความที่แฝงอยู่ด้วยใช่มั้ย

"ปกติผมชอบโกนหัวตัวเองอยู่แล้ว โกนเองด้วย ผมมีแบตตาเลี่ยน ส่วนตัวผมชอบย้อมผมด้วย ในมิวสิกวีดีโอผมโกนส่วนผมสีบลอนด์ออกไป ให้เหลือแต่สีผมแท้ของผม ซึ่งเป็นสีน้ำตาลเข้ม 

สิ่งที่ผมจะสื่อก็คือ ไม่ว่าตัวเราจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร หรืออยากจะเป็นตัวตนแบบอื่น สุดท้ายพอปอกเปลือกออกไป คุณก็ยังเป็นคนๆ เดิมอยู่ดี  ในเนื้อเพลงจะมีท่อน "You're just a feeling I'd rather forget So I pierce my skin and I buzz my hair" ก็ย้ำเตือนถึงความรู้สึกการอยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง"  

เบื้องหลังเพลง "comethru" ซิงเกิ้ลดังของคุณ

"ผมเขียนเพลงนี้ตอนเรียนจบมหาวิทยาลัย แล้วกลับมาที่บ้าน ช่วงนั้นเป็นความรู้สึกแปลกๆ ต่อจิตใจผม เพราะผมอยู่นิวเจอร์ซี ส่วนเพื่อนๆ กำลังสนุกกันที่นิวยอร์ก ความรู้สึกผมสับสนมากๆ เลย สุดท้ายอยู่ดีๆ ผมก็ทำเพลงนี้ตลอดคืน ตื่นอีกทีก็ตอนหกโมงเย็น ตอนนั้นเป็นช่วงเวลาที่แปลกประหลาดมาก ไม่รู้ว่าตัวเองฝันอยู่หรือเป็นชีวิตจริง เบลอมากๆ เลยครับ แต่สุดท้ายการหาทางออกคือ การออกไปพบปะเพื่อนๆ แล้วเพลงนั้นก็เกิดขึ้นมาครับ"    

สุดท้ายนี้ฝากข้อความถึงแฟนเพลงชาวไทยหน่อย

"ขอบคุณครับ (พูดเป็นภาษาไทย) ขอบคุณที่ฟังเพลงของผม"    

สามารถซื้อบัตร Jeremy Zucker ได้ที่ tickenmelon