สัมภาษณ์พิเศษ Fontaines D.C. เจ้าของอัลบั้มล่าสุด Romance กับความโรแมนติกที่ไม่ได้มีแง่มุมเดียว

หากใครติดตามวงการเพลงอังกฤษ ชื่อของวงดนตรีจากไอร์แลนด์ Fontaines D.C. มักปรากฏให้เห็นอยู่บนสื่อดนตรีโดยตลอด พวกเขาเป็นตัวแทนของวงคลื่นลูกใหม่ที่แสดงออกถึงความเป็นไอริชอย่างชัดเจน และมีผลงานออกมาต่อเนื่อง ได้แก่ Dogrel (2019), A Hero's Death (2020) และอัลบั้ม Skinty Fia (2022) ที่ทำให้วงคว้ารางวัล Brit Awards ประกาศศักดาอย่างยิ่งใหญ่ 

ถัดมาในอัลบั้มล่าสุด Romance ที่เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา งานชุดนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของ Fontaines D.C. อย่างแท้จริง พวกเขากลับมาพร้อมกับภาพลักษณ์ที่ฉูดฉาดกว่าเดิม พร้อมซาวด์ดนตรีที่มีได้รับอิทธิพลหลากหลาย และมีความสากลมากขึ้น งานชุดนี้ได้รับคำชื่นชมอย่างล้นหลาม และสามารถพูดได้เต็มปากว่า นี่อาจเป็นอัลบั้มแห่งปีของคอเพลงอัลเทอร์เนทีฟ

เสพย์สากลได้สัมภาษณ์กับ Tom Coll มือกลอง Fontaines D.C. โดยมีการถามถึงซิงเกิ้ลเปิดตัวสุด Hype อย่าง "Starburster" ที่สร้างเซอร์ไพรส์กับแฟนเพลงของวง และคุยถึงเรื่องราวน่าสนใจเกี่ยวกับอัลบั้ม Romance และคำถามสำคัญอย่างความเป็นไปได้ของการมาทัวร์เอเชียในอนาคตของ Fontaines D.C. ในอนาคต 

เหตุผลที่เลือก "Starburster" เป็นซิงเกิ้ลเปิดอัลบั้ม Romance

"พวกเราอยากให้แฟนๆ เซอร์ไพรส์ครับ "Starburster" ได้รับอิทธิพลจากฮิปฮอป และมันโดดเด่นกว่าเพลงอื่นๆ ยิ่งถ้าดูเอ็มวีแล้วพวกเรามาโฉมใหม่ทั้งเพลงและภาพลักษณ์ ซึ่งพวกเราดีใจมากๆ ครับ เพราะกระแสตอบรับมันเกินคาดจริงๆ หลักๆ ที่เราเลือกซิงเกิ้ลนี้มาเปิดอัลบั้ม เราอยากให้แฟนๆ ของเราช็อกครับ" 

นอกจากฮิพฮอพแล้ว ซิงเกิ้ลนี้ได้รับอิทธิพลจากเพลงนูเมทัลด้วยใช่ไหม 

"แน่นอนครับ มันมีกลิ่นอายของ Korn, The Smashing Pumpkins, Deftones รวมถึงกรันจ์ร็อกด้วย พวกนี้คือเพลงที่พวกเราชอบฟังช่วงวัยรุ่นครับ แต่พอโตขึ้นเราก็เริ่มปฏิเสธแนวเพลงที่เคยชอบ แต่การที่เรากลับมาฟังเพลงเหล่านี้ตอนอายุขึ้นเลขสาม มันกลับทำให้รู้สึกตื่นเต้นอีกครั้ง เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปในช่วงที่เรามีความสุขจริงๆ กับการฟังเพลง"      

การกลับมาครั้งนี้ ภาพลักษณ์วงดูฉูดฉาดแปลกตามากขึ้นด้วย  

"จริงๆ แล้วพวกเราเติบโตมามากับแฟชั่นยุค 2000s ที่ได้รับอิทธิพลมาจากยุค 60s แต่คอสตูมสีฉูดฉาดที่เราใส่ไม่ได้อธิบายตัวตนพวกเรา มันเป็นการตัดสินใจที่อยากจะท้าทายตัวเอง เพราะก่อนหน้านี้พวกเราแต่งตัวสไตล์เรียบๆ มาตลอด มันเลยสนุกมากๆ ครับที่ได้ลองเปลี่ยนภาพลักษณ์ใหม่ๆ ลองออกจากคอมฟอร์ทโซน ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ" 

การร่วมงานกับ James Ford โปรดิวเซอร์ของ Arctic Monkeys เป็นอย่างไรบ้าง 

"พวกเรารักงานเพลงที่ James Ford ทำครับ เขาเคยร่วมงานกับ Arctic Monkeys, Blur, Depeche Mode และเขาก็เป็นโปรดิวเซอร์ชื่อดัง พวกเราทำงานกับเขาที่ลอนดอนหลายวัน และอัดเพลง "Favourite", "Motorcycle Boy" ด้วยกัน การทำงานร่วมกับเขามันทำให้รู้สึกว่า Romance คือการทำเพลงแบบสตูดิโออัลบั้มที่แท้จริง พวกเรามีประสบการณ์การทำงานด้วยกันที่ดีมากๆ ครับ"     

Fontaines D.C. เป็นวงที่มักนำเสนอความเป็นไอริชผ่านบทเพลง แต่อัลบั้มนี้วงไม่ได้ใช้มุมมองนำเสนอแบบเดิมใช่ไหม

"ที่ผ่านมาเรานำเสนอความเป็นไอริชแทบจะเป็นศูนย์กลางของอัลบั้ม อัลบั้มแรกเราพูดถึงชีวิตในดับลิน (เมืองหลวงของไอร์แลนด์), อัลบั้มถัดมาคือการเป็นไอริชในต่างแดน แต่ในอัลบั้มนี้ถือเป็นผลงานชุดแรกที่มีมุมมองแบบสากลมากขึ้น อาจเป็นเพราะพวกเราไม่อยากทำอะไรแบบเดิมแล้วด้วยครับ" 

เล่าถึงที่มาของชื่ออัลบั้ม Romance 

"มันเป็นเรื่องใหม่สำหรับพวกเรามากๆ ครับ เพราะเราตั้งชื่ออัลบั้มก่อนที่เราจะเขียนเพลงกัน มันก็เลยเป็นแกนหลักของอัลบั้มไปโดยปริยาย คำว่า Romance หลายคนจะนึกถึงความหวานโรแมนติก แต่คำๆ นี้มันตีได้หลายความหมายครับ มันอาจจะเป็นความเศร้าโศกก็ได้ อัลบั้มนี้คือการตีความคำว่า Romance ในหลากหลายแง่มุมครับ" 

การเป็นวงไอร์แลนด์ถือว่ามีอุปสรรคไหมในการประสบความสำเร็จในวงการดนตรีอังกฤษ 

"พวกเราเคยเล่นในลอนดอนตอนที่เริ่มทำวงกันแรกๆ ผมว่าการมาเล่นในเมืองหลวงมันเป็นข้อดีสำหรับเรา ผมรู้สึกว่าวงที่อยู่ที่ลอนดอนอยู่แล้วอาจจะง่ายต่อการเซ็นสัญญากับค่ายเพลงมากกว่าวงอื่นๆ ที่ไม่ได้อยู่ที่นั่น เพราะมีโอกาสได้คลุกคลีกับผู้คนมากกว่า และลอนดอนก็มีเวนิว (สถานที่แสดงคอนเสิร์ต) ที่หลากหลาย ขณะที่พวกเราเล่นที่ไอร์แลนด์มานานหลายปี ผมก็ไม่เห็นมีใครสนใจพวกเราเลย แต่ปัจจุบันผมก็เห็นวงไอริชเจ๋งที่แจ้งเกิดเองได้มากมาย ผมว่าตอนนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญมากๆ สำหรับซีนดนตรีไอริชครับ" 

ความเป็นไปได้ที่ Fontaines D.C. จะมาทัวร์เอเชียในอนาคต

"เราหวังที่จะได้ไปทัวร์เอเชียครับ มันคงจะยอดเยี่ยมมากๆ หากเกิดขึ้นจริง หวังว่าคงเป็นปีหน้านะครับ ทุกอย่างมีการพูดคุยกันแล้วครับ แต่คงไม่สามารถการันตีได้จริงๆ พวกเราเคยมีโอกาสไปทัวร์ที่ญี่ปุ่น แน่นอนครับว่าพวกเราอยากไปแสดงคอนเสิร์ตในประเทศอื่นๆ ในเอเชียด้วยในอนาคต"  

ฟังอัลบั้ม Romance ของ Fontaines D.C. ได้แล้ววันนี้