สัมภาษณ์: Alexander 23 ศิลปินเจ้าของเพลง "IDK You Yet" ผู้มองบทเพลงเป็นตัวเชื่อมต่อกับผู้คน

Alexander Glantz หรือ Alexander 23 ถือเป็นศิลปินหน้าใหม่ที่เราอยากแนะนำให้รู้จัก เขาเริ่มเป็นที่รู้จักจากเพลง "Another Summer Night Without You" ที่ได้ประกอบซีรีส์ 13 Reasons Why และตอนนี้กำลังโด่งดังจากเพลง "IDK You Yet"

หากให้นิยามแนวเพลงของ Alexander 23 ถือว่าหาคำจำกัดความได้ยาก เพราะเพลงของเขามีการผสมผสานหลายแนวดนตรี แต่เชื่อว่าแฟนเพลงของ Lauv, Jeremy Zucker, Alec Benjamin จะชื่นชอบเขาแน่นอน

ล่าสุดเสพย์สากลได้มีโอกาสพูดคุยกับ Alexander 23 ตั้งแต่เรื่องที่มาของชื่อที่หลายคนสงสัย อิทธิพลทางดนตรี วิธีการเขียนเพลง และเป้าหมายที่อยากให้บทเพลงของเขาเป็นตัวเชื่อมต่อผู้คนเข้าด้วยกัน

สถานการณ์ COVID-19 ที่อเมริกาตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง

ตอนแรกทุกอย่างเหมือนจะเริ่มดีขึ้น ไม่นานก็กลับมาแย่อีกครั้ง หลายครอบครัวต้องเผชิญความสูญเสีย น่าช็อกมากๆ

คุณเติบโตมากับดนตรีประเภทใด

ผมได้รับอิทธิพลจากรสนิยมดนตรีของพ่อแม่ อย่างพวกวง Fleetwood Mac แต่คนที่มีอิทธิพลด้านการเขียนเพลงสำหรับผมคือ John Mayer วิธีการทำเพลงและโปรดักชั่นของเขาน่าสนใจมาก แต่ไม่มีอะไรน่าสนใจเท่ากับการเขียนเพลงของเขาแล้ว เหนือชั้นจริงๆ

ถ้าให้เลือกอัลบั้มโปรดที่สุดของ John Mayer ล่ะ

โห เลือกยากเหมือนพ่อแม่เลือกลูกคนโปรดเลยล่ะ (หัวเราะ) ผมชอบหลายอัลบั้ม แต่ก็ต้องยกให้ Continuum อัลบั้มชุดนี้มีอิทธิพลต่อการเขียนเพลงของผม ผมฟังแล้วอยากเขียนให้ได้แบบนั้น มันเป็นบทเพลงเหนือกาลเวลา ไม่ว่าคุณจะฟังที่ไหน คุณจะฟังเวลาไหน มันก็ยังดูสดใหม่เหมือนเดิม

ในความเห็นของคุณ นักเขียนเพลงที่ดีควรมีคุณสมบัติอย่างไร

เวลาคุณเขียนเพลงมันจะมีความรู้สึกแบบ อยากเขียนเกี่ยวกับอะไร คุณอยากเป็นใคร อะไรที่มีอิทธิพลกับตัวคุณ แต่ถ้าพูดถึงนักเขียนเพลงที่ดี ผมจะนึกคำพูดที่ว่า อย่าตั้งใจเขียนเพลงที่มันสมบูรณ์แบบ เพลงจะสมบูรณ์แบบด้วยตัวมันเอง เพราะการที่เพลงจะเพอร์เฟกต์ ต้องปล่อยให้คนฟังตัดสินเอาเอง ศิลปินอย่าง John Mayer หรือ Kacey Musgraves คือตัวอย่างนักเขียนเพลงที่ผมชื่นชม     

คุณนิยามแนวเพลงของตัวเองอย่างไร 

มันยากมากที่จะนิยามว่าเป็นแนวอะไร เพราะผมอยู่ใกล้ชิดกับดนตรีตัวเองเหลือเกิน ผมไม่ได้มองว่าเป็นเพลงด้วยซ้ำ มันเหมือนกับการดึงข้อมูลในหัวออกมา แต่สิ่งที่อยากให้ผู้คนพูดถึงเพลงของผมคือ เพลงของผมต้องให้คนฟังได้รู้สึกอะไรบางอย่าง

เหตุผลที่ตั้งชื่อตัวเองว่า Alexander 23

"ผมเกิดในวันที่ 23 ที่เมืองชิคาโก้ แล้วชอบเล่นบาสเกตบอลมากๆ เวลานั้น Michael Jordan คือตำนานแห่งหมายเลข 23 ของเมืองเรา และอีกอย่างผมเริ่มแต่งเพลงตอนอายุ 23 ถ้าใช้ชื่อจริง Alexander มันก็จะรู้สึกแปลกๆ เลยใส่หมายเลข 23 เข้าไปเพื่อให้ดูน่าสนใจขึ้นครับ" 

แล้วคุณได้ดูหนังสารคดี The Last Dance ของ Michael Jordan รึยัง

โห! (หัวเราะ) ดูแล้วแน่นอน อย่างที่บอกผมเป็นแฟนบาสเกตบอลตัวยง หนังสารคดีเรื่องนั้นถ่ายทำส่วนใหญ่ที่บ้านเกิดของผม การได้ดูเรื่องราวของ Michael Jordan มันสร้างแรงบันดาลใจให้กับผมมากๆ

ปกติแล้วคุณเขียนเพลงขึ้นมาจากประสบการณ์ส่วนตัวหรือเปล่า 

"หลักๆ ก็จะมาจากประสบการณ์และความรู้สึกตัวเอง อย่างบางคนอาจเขียนเพลงขึ้นจากมุมมองคนอื่น ผมก็ชอบเพลงประเภทนั้นนะ เคารพวิธีการเขียนเพลงแบบนั้นด้วย แต่สำหรับผมอาจรู้สึกฝืนๆ หากต้องเขียนแบบนั้น มันง่ายสำหรับผมหากเขียนอะไรที่ตัวเองรู้สึกเชื่อมต่อ เพราะหากผมไม่รู้สึกเชื่อกับเนื้อเพลงที่ผมเขียน มันคงยากสำหรับผมมากๆ เลยล่ะ" 

แฟนเพลงชาวไทย ชอบเพลง "IDK You Yet" มากๆ ช่วยพูดถึงเพลงนี้ให้ฟังหน่อย

ก่อนอื่นผมอยากขอบคุณแฟนเพลงชาวไทยมากๆ เลยครับ ในฐานะเด็กอเมริกันคนหนึ่ง การได้รับรู้ว่ามีคนอีกซีกโลกหนึ่งฟังเพลงของเรา ผมรู้สึกปลาบปลื้มจากใจเลย สำหรับเพลง "IDK You Yet" ผมเขียนขึ้นในช่วงเวลาการกักตัว จากความรู้สึกโดดเดี่ยว และผมรู้สึกว่ามีหลายคนน่าจะเผชิญความรู้สึกเดียวกับเรา ผมชอบที่ให้เพลงเชื่อมต่อกับผู้คนได้ ตอนนี้มันต้องมีอะไรให้ยึดเหนี่ยวบ้าง ท่ามกลางช่วงเวลาอันยากลำบาก"  

เวลาเขียนเพลงนี้ขึ้น คุณเริ่มจากสิ่งไหนก่อนระหว่าง "ทำนอง" หรือ "เนื้อร้อง"

เนื้อเพลงครับ เพลงส่วนใหญ่ของผมจะมาจากเนื้อเพลงเสมอ ก็อย่างที่ผมเคยพูดไปก่อนหน้านี้ เนื้อเพลงคือทุกๆ อย่าง และผมต้องรู้สึกเชื่อในทุกๆ คำที่ผมเขียน และการเริ่มด้วยเนื้อเพลงก่อน จะเป็นตัวตัดสินว่าผมจะทำเพลงนั้นจนจบหรือไม่ จะชอบหรือไม่ชอบ

มีศิลปินที่อยากร่วมงานในอนาคตบ้างไหม

โห เลือกยาก ผมเปิดรับกับทุกโอกาสเลย แต่ถ้าให้เลือกได้อยากร่วมงานกับศิลปินข้ามแนวเพลง หรือคนที่ไม่ได้ทำเพลงแนวใกล้ๆ กับผม ไม่ก็เป็นศิลปินที่ได้รับนิยมมากๆ อย่าง LANY ก็ลองดูว่าอนาคตผมจะได้ร่วมงานกับใคร

รู้สึกอย่างไรที่ "Another Summer Night Without You" ได้ประกอบซีรีส์ 13 Reasons Why

"ผมโชคดีที่ได้ทำเพลงให้กับซีรีส์เรื่องนี้ แล้วก็รู้สึกภูมิใจที่มันเข้ากับคอนเซปต์ของซีรีส์ได้ อีกทั้งยังมีศิลปินหลายๆ คนที่ผมชื่นชมและรู้จักทำเพลงให้กับซีรีส์นี้ด้วย เพลงนี้ผมให้คำจำกัดความว่า "Classic heartbreak Song" เหมือนแบบมีคนที่คุณชอบ แต่คุณไม่สามารถครอบครองเธอได้ หรือคุณรู้ว่าเธอตัวตน แต่คุณก็ไม่เจอเธอสักที มันก็เจ็บปวดไปอีกแบบ"  

แล้วคุณมีซีรีส์หรือหนังที่ชอบไหม 

"ผมชอบ Rick and Morty เรื่องนี้สนุกมากๆ เลย แล้วก็ชอบหนังมาเฟียอย่าง Goodfellas แต่บางทีผมก็แอบรู้สึกผิดนะ ยิ่งถ้าใช้เวลากับความบันเทิงมากไปหน่อย ผมเลยเลือกดูหนังสารคดี เพราะอย่างหน่อยผมก็ได้เรียนรู้อะไรบ้าง"  

คุณมีแผนที่จะออกอัลบั้มเต็มในเร็วๆ นี้มั้ย

นั่นเป็นคำถามใหญ่มากๆ เลยนะ ผมเติบโตมาจากการติดตามฟังเพลงของศิลปินหลายๆ คน ผมรู้ความสำคัญของอัลบั้มชุดแรกเป็นอย่างดีว่ามันเป็นเรื่องใหญ่สำหรับศิลปินขนาดไหน ดังนั้นถ้าจะทำอัลบั้มเต็ม ผมต้องมั่นใจกับตัวเองแบบ 100% ก่อน ก็ต้องรอดูกันต่อไป 

ความฝันในฐานะนักดนตรีหรือศิลปิน 

ผมอยากทำเพลงเชื่อมต่อกับผู้คนครับ อยากให้ผู้คนฟังเพลงผมแล้วรู้สึกไม่โดดเดี่ยว คือผมก็เป็นแค่คนธรรมดา แต่ผมฝึกฝนทุกวันในการอธิบายความรู้สึกอันเปราะบางผ่านบทเพลง

ฝากถึงแฟนเพลงชาวไทย 

อย่างแรกเลย ขอบคุณที่ติดตามครับ ผมอยากไปเจอพวกคุณทันทีที่สถานการณ์ทุกอย่างกับมาเป็นปกติ ก่อนถึงตอนนั้นคุณสามารถเจอผมในโซเชียลมีเดีย การได้เห็นผู้คนมีแพสชันกับเสียงเพลง ทำให้ผมมีแรงบันดาลใจมากๆ ขอบคุณอีกที หวังว่าจะได้เจอกันในเร็วๆ นี้